แถลงการณ์จากคนทำเกมคนหนึ่ง กรณีประเด็นปัญหาระหว่างบริษัทกับพนักงานขอย้ำว่าแถลงการณ์นี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมคนเดียวเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมใดๆที่ผมสังกัดและไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ผมทำงานอยู่และไม่เกี่ยวข้องใดๆกับสถาบันการศึกษาที่ผมสอน ความที่นิสัยเห็นประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคม แม้อาจไม่เกี่ยวอะไรกับเราแต่ก็อดนิ่งนอนใจไม่ได้จริงๆ
หลายคนอาจมีความเห็นว่าเราไม่ควรจะแสดงความเห็นจนกว่าเราจะได้รับทราบข้อมูลชัดเจนเพราะเราไม่มีทางทราบข้อเท็จจริงของแต่ละฝ่ายเราจึงไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ผมกลับเห็นว่าถ้าเราทุกคนต่างคิดว่าจะไม่ยุ่งหากไม่ใช่เรื่องของตัวบางครั้งก็อาจเท่ากับการปล่อยให้มีการทำผิดเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาโดยที่เราไม่ได้ช่วยเหลือหรือทำอะไรเลย แล้วถ้าสังคมมีแต่คนไม่อยากเปลืองตัวทุกฝ่ายต่างรอ กว่าข้อเท็จจริงจะปรากฎ กว่าที่ผู้เสียหายจะได้รับการเยียวยาอาจจะไม่ทันการ
ที่สำคัญผมมีความเห็นว่าการเข้าไปยุ่งไม่ได้แปลว่าเราจำเป็นต้องเลือกข้าง โดยพิพากษาไปก่อนว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความผิดแล้วเราต้องไปช่วยฝ่ายที่ถูก นั่นแปลว่านั่นกำลังมีคนชนะ มีคนแพ้ มีคนถูก มีคนผิด ซึ่งในรายละเอียดผมเชื่อว่าทุกกรณีทุกคนทุกฝ่ายมีทั้งส่วนที่เราทำผิดและทำถูกด้วยกันทั้งนั้น ที่สำคัญคือเราต้องมีทัศนคติเชิงบวกในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ตอนนี้ผมมองว่าทั้งสองฝ่ายอาจจะติดอยู่กับทัศนคติเชิงลบ แต่ละฝ่ายต่างเชื่อมั่นในข้อมูลและหลักฐานของที่ตัวเองมีและพร้อมที่จะหาไม้เด็ด เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของฝ่ายตนเอง ซึ่งถ้าต่างคิดในแนวนี้กันจริงผมมองว่ามันไม่เป็นผลดีเลยสำหรับแต่ละฝ่าย ถ้าแต่ละฝ่ายยังพยายามจะปล่อยกันคนละหมัดแบบนี้อาจพังได้ทั้งคู่ครับ ทางบริษัทก็อาจถูกมองจากสังคมอย่างไม่ไว้ใจ ตัวพนักงานก็อาจจะหางานได้ไม่ง่ายเพราะนายจ้างใหม่ก็อาจหวั่นๆ
สิ่งที่ผมฝันอยากให้เกิดคืออยากให้ทั้งสองฝ่ายหาคนกลางเข้าช่วยเจรจาหาทางออกกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยแล้วแถลงข่าวร่วมกันในการยุติประเด็นปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือยึดถือการพูดคุยกันมากกว่าการใช้กฎหมายในการแก้ปัญหาครับ ถ้ามาแนวทางแรกกันได้ผมคิดว่าจะเป็นทางออกที่สวยงามของทุกๆคน
Source:
แถลงการณ์จากคนทำเกมคนหนึ่ง กรณีประเด็นปัญหาระหว่างบริษัทกับพนักงานFacebook :
http://www.facebook.com/BankDebuzTwitter :
http://www.twitter.com/BankDebuzTumblr :
http://bank.deb.uz/
