หลังจากไม่ได้โพสต์เรื่องผีๆมานาน วันนี้ขอมาเล่าเองเลยดีกว่าจากประสบการณ์ที่เจอมาเองแบบจะจะ อาจจะไม่ได้เห็นตัวเป็นๆแต่ก็สยองนิดหน่อย
เรื่องนี้เกิดสมัยเรียนมหา'ลัย แต่มาพักที่ห้องแฟนซึ่งอยู่มหา'ลัยเอกชนชื่อดังแถวๆดินแดง(ประชาสงเคราห์) ซึ่งอพาร์ทเม้นท์นี้จะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนที่เรียนที่นี่ มีชื่อว่า "พี..เค..แอล...(ขอละชื่อเต็มเอาไว้นะ)"
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่ค่อนข้างดังเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ผมพักอยู่ชั้น 3 ห้อง 30... ส่วนห้องที่เกิดเหตุเป็นห้อง 303 ถ้าเปิดลิฟต์มาก็จะเจอห้องนี้ทันที
คืนวันนั้นเป็นวันลอยกระทง เสียงพลุเสียงดอกไม้ไฟจะดังมากจนเป็นเรื่องปกติ ผมนอนอ่านหนังสือสอบอยู่ในห้องจนถึงประมาณตี 2 ก็มีเสียงพลุดังมากๆ ดังจนผิดสังเกตุ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนผ่านมาซัก 5 นาทีก็รู้สึกหิวขึ้นมา
ข้างหน้าหอก็จะมีร้านอาหารอีสานอยู่ ผมเลยคิดที่จะลงไปซื้อส้มตำขึ้นมากินที่ห้อง พอเปิดประตูห้องออกไป ก็เหลือบไปเห็นช่างประจำหอกับพี่ตำรวจซึ่งพักอยู่ที่หอนี้ กำลังช่วยกันงัดประตูห้อง 303 ผมก็เลยเดินเข้าไปเพื่อจะช่วย แล้วถามพี่คนที่เป็นช่างว่ามางัดห้องทำไม พี่เค้าก็ตอบกลับมาว่า "พอดีแม่ของเจ้าของห้องนี้เค้าสังหรณ์ไม่ดีว่าลูกสาวเค้าจะฆ่าตัวตาย พอมาเคาะประตูห้องก็ไม่มีใครเปิดทั้งๆที่ได้ยินเสียงทีวี แม่เค้าเลยให้งัดเข้าไป"
ช่วงที่กำลังงัดๆกันอยู่ ผมก็รู้สึกว่าจะต้องเจอภาพสยองๆแน่ๆ ก็เลยถอยออกมา สักพักพี่ตำรวจก็กระโดดถีบประตูเข้าไป.....
ต่อ ตอนที่ 3 นะครับ.....
ที่พ่อแม่ของเธอสังหรณ์ใจว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตายก็เพราะว่า วันก่อนเกิดเหตุเธอพูดแบบย้ำๆอยู่เสมอว่า จะฆ่าตัวตาย ให้เตรียมมาเก็บข้าวของที่ห้องด้วย ซึ่งตอนนั้นแม่ของเธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเธอพูดเล่น เพราะปกติเป็นคนร่าเริง ไม่ซีเรียส...
คืนวันเกิดเหตุ หลังจากที่พ่อ-แม่ ออกจากหอเพื่อเดินทางกลับบ้าน ผมไม่แน่ใจว่าเพชรบุรีหรือว่าประจวบฯ พอออกมาได้ซักประมาณ สมุทรสงคราม(ผมไม่แน่ใจนะรู้แต่ว่าทางไปสายใต้อ่ะ) เธอก็โทรไปบอกแม่เธออีกว่า เธอจะไม่อยู่แล้วนะ อย่าลืมมาเก็บข้าวของที่หอด้วย
ครั้งนี้ทำให้แม่ของเธอรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก จึงพยายามติดต่อกลับไป แต่ปรากฎว่าไม่มีใครรับโทรศัพท์เลย เธอจึงโทรเข้าไปที่ office ของหอแล้วให้คนไปงัดห้อง ซึ่งมันก็ช้าไปซะแล้ว....
สาเหตุการตายคือเธอใช้หมอนบังแล้วยิงไปที่แฟนของเธอก่อน แล้วจึงยิงตัวเองตายตาม ก่อนหน้านั้นมีคนที่อยู่ข้างหลังหอ (จะเป็นเหมือนสลัมเล็ก เป็นบ้านไม้เก่าๆ แล้วก็มีป่ากล้วยตานีขนาดย่อม) บอกว่าได้ยินเสียงคนทะเลาะกันดังมาก แล้วก็มีเสียงปืนดังขี้น แต่ไม่มีใครใส่ใจ เนื่องจากเป็นคืนวันลอยกระทง.....
ตอนต่อไป จะเป็นเหตุการณ์หลังจากเธอจากไปประมาณ 2 อาทิตย์ ซึ่งผมเจอมากับตัวเองที่หน้าลิพ
เหตุการณ์ผ่านไป 2 อาทิตย์ ประมาณวันที่ 6 ธ.ค. ถ้าจำไม่ผิดนะ
เวลาประมาณ 5 ทุ่ม ผมกลับมาจากเรียนที่แถวๆสยาม พอมาถึงหอ ผมก็ตรงไปที่ลิฟต์ทันที เพื่อที่จะไปที่ห้อง 30.. ที่ผมอยู่ พอลิฟต์เปิดผมก็เข้าไปตามปกติแล้วก็กดชั้น 3 แล้วประตูลิฟต์ก็ปิด ผมก็จ้องมองไปที่ตัวเลขเวลาลิฟต์ขึ้นไปทีละชั้นๆ 2... แล้วก็ 3.... ตึ๊ง !!! ถึงชั้น 3 ประตูก็เปิดออก พร้อมกับมีผู้ชายร่างใหญ่เดินสวนผมเข้าไปในลิฟต์
ซึ่งบอกตรงๆความรู้สึกตอนนั้นมันเหมือนเค้าเดินผ่านตัวผมเข้าไป เพราะผมจำได้ว่าผมไม่ได้เอี้ยวตัวหลบซักนิด แต่ทำไมตัวถึงไม่ชนกัน !!!
แต่ตอนนั้นผมก็ไม่คิดอะไร ก็เดินเลี้ยวขวาไปที่ห้องทันที ข้างๆลิฟท์ทางขวามือจะเป็นที่ทิ้งขยะ เปิดไฟสว่างไสว ผมก็เดินไปเรื่อยๆ จนถึงห้องแฟน
จากนั้นผมก็มองไปที่หมายเลขห้อง 30... โอเค ถูกห้องแล้ว ก็เคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก....
ไม่มีใครเปิด....
เคาะอีกครั้งนึง ก๊อก ก๊อก ก๊อก....
ก็ยังไม่มีใครเปิดอยู่ดี...
ผมก็งงว่าทำไมไฟห้องปิด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรขึ้นมา แฟนก็ยังรับสายอยู่ ก็เลยเดินวนอยู่ที่หน้าห้องซักพักนึง
ประมาณ 30 วินาทีผมก็กลับมาที่หน้าห้องอีก พร้อมๆกับเคาะประตู ก๊อก... เฮ้ย....... !!
สิ่งที่สายตาผมเห็นก็คือ หมายเลขห้อง 20.... !!!
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันคือห้องของแฟนผม ห้อง 30.... !!!
ผมงงมากๆ ใจก็เต้น ตุบๆๆๆ !!
พลันไปนึกถึงตอนที่ออกจากลิฟต์ แล้วก็ตอนที่มีผู้ชายเดินสวนเข้าไป
ผมพยายามรวบรวมสมาธิ แล้วเดินกลับไปที่ลิฟต์อีกครั้ง ซึ่งพอเดินมาถึงตรงที่ต้องเลี้ยวซ้ายแล้วไปที่ประตูลิฟต์ มันทำให้ผมขนลุกซู่ !! แบบที่ไม่สามารถบังคับตัวเองได้เลย
เพราะสิ่งที่ผมได้เห็นก็คือ.....
สิ่งที่ผมเห็นคือ ตรงมุมลิฟต์มันมืดไปหมดไม่มีแม้แสงไฟ และถังขยะก็ไม่มี ซึ่งชั้น 2 ปกติมันจะเป็นห้องไฟ ไม่มีมุมทิ้งขยะ !! แล้วสิ่งที่ผมเห็นตอนที่ออกจากลิฟต์ตอนแรก มันคืออะไร !!??
ผมก็เลยเริ่มรู้ตัวแล้วว่าโดนแล้วแน่ๆ พยายามรวบรวมสมาธิ แล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 3 ซึ่งบันไดจะติดอยู่กับห้อง 303 พอดี และมืดมากๆ
ผมพยายามไม่วิ่ง เดินไปช้าๆก้าวทีละขั้นๆ แต่หูเจ้ากรรมก็ดันไปได้ยินเสียงคนทะเลาะกันซึ่งดังมากๆ ตามมาด้วยเสียงของผู้หญิงร้องไห้ จังหวะนั้นผมก็โกยทันทีครับ ไม่คิดชีวิต เสียวหลังเป็นอย่างมาก
(ตอนเช้าผมไปถามที่อฟฟิศ เค้าบอกว่าลิฟต์ชั้น 2 จะไม่เปิด เพราะต้องการให้คนที่อยู่ชั้น 2 ใช้บันไดเท่านั้น !!)
พอมาถึงห้อง แฟนก็ถามเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดอย่างนั้น ผมไม่อยากเล่าให้เค้าฟัง เพราะเค้าเป็นคนกลัวผีอย่างมาก
จากนั้นผมก็ไม่สบายจับไข้ไปอาทิตย์นึง ระหว่างจับไข้ เพื่อนๆแฟนก็มานอนค้างที่ห้อง แล้วก็มีเรื่องประหลาดอีกจนได้
ซึ่งคืนนั้นมีคนมาค้างประมาณ 3 คน รวมผมกับแฟนด้วยก็เป็น 5 คน พอตกกลางคืนก็เปิดแอร์นอน ซึ่งผมนอนบนเตียง ส่วนอีก 3 คนนอนข้างล่างข้างๆเตียง
เวลาประมาณตี 1 อากาศที่ห้องก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนนอนกันไม่ได้ ทั้งๆที่เปิดแอร์ไว้ที่ 23 องศา
เพื่อนแฟนก็ลุกขึ้นไปปรับแอร์เป็น 20 องศา แต่พอนอนไปซักพักมันก็ยิ่งร้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนผมต้องลุกไปปรับแอร์ที่ 15 องศา(เย็นที่สุดแล้วที่แอร์จะปรับได้) ทีนี้อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นจนเริ่มปกติ
ผ่านมาถึงประมาณตี3 อากาศก็เริ่มร้อนอีกครั้ง แล้วจู่ๆ เพื่อนแฟนก็ร้องไห้ออกมา นอนเพ้อแล้วก็ร้องไห้ แต่สิ่งที่เค้าเพ้อออกมามันฟังไม่ได้ศัพท์เลยซักกะคำ......
หลังจากที่เพื่อนแฟนเพ้อ ทุกคนก็เริ่มตกใจ ผมจึงเรียกแฟนไปที่ระเบียงแล้วเล่าเรื่องที่ผมเจอให้แฟนฟัง ผมพยายามบอกแฟนไม่ให้กลัว แล้วบอกว่าเด๋วให้แฟนยกมือไหว้เจ้าที่ ให้เจ้าที่คุ้มครอง พอเข้ามาในห้อง แฟนก็เข้าไปในห้องน้ำแล้วยกมือไหว้ขอเจ้าที่ ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลครับ เพื่อนคนนั้นก็นอนหลับไปในที่สุด แต่ก็มีอาการไข้ตามมา
วันรุ่งขึ้น... ผมกับแฟนตัดสินใจไปซึ้อพวงมาลัยดอกมะลิและธูปมาเพื่อจะมาไหว้เจ้าที่ที่ห้อง พอไหว้ที่ระเบียงเสร็จก็เอาพวงมาลัยไปคล้องไว้ที่นาฬิกาแขวนผนัง ซึ้งจะติดอยู่บนเสาหลังทีวี เวลามองจากเตียงจะเห็นอยู่ตรงข้ามพอดี
พอตกดึกผมและเพื่อนๆแฟนก็นอนดูทีวีกัน เวลาน่าจะประมาณเที่ยงคืนได้ จำได้ว่านั่งดู HBO กันอยู่ จู่ๆ พวกมาลัยที่คล้องไว้กับนาฬิกาก็ร่วงลงมาโดยที่เราทั้ง 5 คนได้เห็นกันหมด
ทุกๆคนเงียบแล้วก็อึ้งกันไป ผมก็พยายามบอกคนอื่นๆว่าคงไม่มีอะไรมั้ง แล้วก็เดินไปหยิบพวงมาลัยไปคล้องไว้เหมือนเดิม
ดูแล้วเหมือนเรื่องจะปกติใช่มั้ยครับ...
แต่เปล่าเลย... กว่าหนัง HBO เรื่องนั้นจะจบ เชื่อมั้ยครับว่าผมต้องเดินไปเก็บพวงมาลัยที่หล่นแล้วหล่นอีกไม่ต่ำหว่า 4-5 รอบ !!!
จนผมคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ดีแน่ เลยเอาพวงมาลัยไปไว้ที่หัวเตียงแทนดีกว่า ต่อจากนั้นทุกๆคนก็พยายามเข้านอนด้วยความกลัว..
ตื่นเช้ามาประมาณ 9 โมง ผมกับแฟนก็ตื่นมาเป็นคนแรก ผมเดินเข้าไปแปรงฟันที่ห้องน้ำ ซักพักนึงก็ออกมาเห็นแฟนนั่งทำหน้าไม่คอยดีอยู่บนเตียง
ผมเลยถามแฟนเบาๆว่าเป็นอะไรเหรอ
แฟนผมไม่ตอบ... แต่ชี้นิ้วไปที่ปลายเตียง.........
พระเจ้า... !!
สิ่งที่ผมเห็นคือ พวงมาลัยที่ผมเอาไปวางไว้ที่หัวเตียง....
ตอนนี้มันไปคล้องอยู่ที่ลูกบิดประตูห้อง.... !!!
หลังจากยืนอึ้งที่ได้เห็นพวงมาลัยคล้องอยู่ที่ประตูไปสักพัก.... ผมก็เข้าไปปลอบแฟนว่าไม่ต้องกลัว เด๋วจะพาไปที่วัด(หอนี้อยู่ตรงข้ามกับวัดๆนึง ชาวบ้านเรียกว่าวัดหลวงพ่อเณร ชื่อเต็มก็วัดพรหม.....)
ตอนสายๆผม แฟนแล้วก็เพื่อนๆ ก็ไปทำบุญรดน้ำมนต์กันที่วัด แล้วก็ตัดสินใจที่จะย้ายห้องทันที แต่พอไปถามที่ออฟฟิศเค้าบอกว่าไม่มีห้องว่างมีแต่ห้อง 31... ที่อยู่ตรงข้ามกับห้องเเดิมที่จะว่างตอนกลางเดือน แต่ผมก็ตัดสินใจย้าย เพื่อความสบายใจของทุกๆคน
หลังจากนั้นมา ห้อง 303 ก็มีอาถรรพ์อยู่เรื่อยๆ ขนาดฝรั่งมาอยู่ยังอยู่ไม่ได้ ลดค่าห้องก็แล้วด้วยการที่มีคนเล่าต่อๆกันไป ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาพัก
จนกระทั่งมีรุ่นน้องผมคนนึง บอกว่าให้ช่วยหาห้องให้ที ผมก็บอกว่ามีนะ แต่... ผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง
มันบอกไม่เป็นไร มันไม่กลัว แต่อย่าไปเล่าให้แฟนมันฟังนะ เพราะแฟนมันอยากอยู่หอนี้มาก (ประมาณว่าหอนี้ค่อนข้างจะ hi-so นิดนึงอ่ะนะ)
จากนั้นมันก็ย้ายมาอยู่จริงๆ เรื่องก็เงียบไปซักพัก แต่ผ่านมาได้ประมาณ 2-3 เดือน ในที่สุดก็มีเฮอีกครั้งจนได้.....
วันนั้นก็ไม่ดึกมาก ผมอยู่ที่ห้องคนเดียว รุ่นน้องทั้ง 2 ก็มาเคาะประตูห้องผม แล้วเข้ามานั่นในห้องด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
มันก็ถามผมว่า ที่ห้อง 303 เนี่ย มีคนเจอมาเยอะมากเลยเหรอ เจอแบบไหน ?? ผมก็เล่าให้มันเล่าให้มันฟังจนหมด
พอเล่าจบ ผมก็ถามมันไปว่า ถามทำไมเหรอ หรือว่าไปเจออะไรมาเข้าล่ะ ??
มันก็มองหน้ากัน แล้วก็เกี่ยงที่เล่าให้ผมฟัง ผมก็บอกโอเคเล่ามาเลย แล้วจะเอาไงค่อยว่ากัน..
มันเล่าว่า...
เมื่อคืนที่ผ่านมา มัน(ผู้ชาย) นอนหลับอยู่ที่เตียง(แบบว่าหลับสนิท) ส่วนแฟนมันกำลังอาบน้ำอยู่
แล้วแฟนมันก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้อยู่ที่ระเบียง ซึ่งก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติเพราะคนที่อยู่ในสลัมข้างหลังหอมักจะทะเลาะกับแฟนบ่อยๆ
แต่พอฟังไปนานๆ กลับได้ยินว่า "เด๋วกูจะเอาปืนยิงมึงให้ตาย !!" แฟนมันก็เลยตกใจตะโกน ให้รุ่นน้องผมที่หลับอยู่ ว่าลองลุกขึ้นไปดูซิ
มันได้ยินก็เลยลุกขึ้นมา แล้วเดินไปที่ระเบียงห้อง พอเลื่อนประตูกระจกออกไป มันก็บอกว่า...
ผมเป็นอะไรไม่รู้ขยับขาไม่ออกเลย เหมือนสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าเค้าพยายามบังคับให้ผมมองเค้าอยู่"
ซึ่งสิ่งที่มันเห็นก็คือ ผู้หญิงผมยาวกำลังนั่งอยู่ที่ซี่เหล็กของขอบระเบียง ผมเธอยาวมากๆ จนถึงพื้นใส่เสื้อน.ศ. แต่เป็นกางเกงขาสั้น
เธอค่อยๆหันมามองหน้ารุ่นน้องของผม แล้วก็มีเสียงพูดโดยที่เธอไม่ขยับปากแม้แต่น้อย เธอพูดว่า "ไอ้ผู้ชายเฮงซวย คนอย่างมึงอยู่ไปก็รกโลก" ซ้ำๆแบบนี้หลายรอบ
รุ่นน้องผมพยายามขยับตัวหันหน้าหนี แล้วก็พยายามตะโกนเรียกแฟนมันที่อยู่ในห้องน้ำ แต่พยายามเท่าไหร่ก็ขยับไม่ได้
จนกระทั่ง.....
มันรู้สึกตัวอีกที ลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าแฟนมันกำลังจ้องหน้ามันอยู่ที่บนเตียง...
แล้วแฟนมันก็ถามว่า.. เป็นบ้าอะไรไปถึงไปยืนอยู่บนซี่เหล็กขอบระเบียง ถ้าตกไปตายจะว่าไงฮะ !!??
มันตกใจ แล้วบอกแฟนมันว่ามันปล่าวทำนะ มันแค่เดินไปที่ประตูกระจกเฉยๆ แล้วเธอได้บอกให้ฉันไปดูคนทะเลาะกันหรือเปล่า "ก็ใช่สิ" แฟนมันตอบ
มันก็ถามถามต่อว่า แล้วตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ ได้เห็นผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงระเบียงมั้ย ??
พอมันพูดจบ.. มันก็มองไปที่หน้าของแฟนมัน ก็ตกใจว่าทำไมแฟนมันถึงตาค้างแล้วมองไปที่ระเบียง.....
มันก็มองตามสายตาของแฟนมันไปที่ระเบียง....
สิ่งที่ทั้ง 2 คนเห็นคือ ผู้หญิงผมยาวคนนั้นยืนอยู่ที่ประตูกระจก พร้อมกับชี้นิ้วมาที่มันทั้ง 2 คน ตาก็จ้องเขม็งมาก แล้วก็มีเสียงพูดออกมาว่า "มึงมาทำอะไรบนเตียงกู พวกมึงใช่มั้ยที่หักหลังกู กูจะเอาพวกมึงไปให้หมด !!"
ทั้ง 2 คนถูกบังคับให้มองอยู่อย่างนั้นประมาณ 3 นาทีได้ ก่อนที่เธอคนนั้นจะค่อยๆลางหายไป มันบอกว่ามันกลัวจนไม่รู้จะทำอะไร สั่นไปหมด แม้กระทั่งในคืนเดียวกันต่อจากนั้นไม่นานประมาณตี3 ตี4 ผู้หญิงคนเดิมก็ยังมานั่นหวีผมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งให้มันเห็น
หลังจากวันนั้นที่รุ่นน้องของผมเล่าเรื่องให้ผมฟังมันก็ย้ายของออกจากห้องนั้นทันที แต่เรื่องเล่าของห้องนี้กก็ยังคงมีมาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะย้ายมาอยู่กี่คนต่อกี่คน ก็ยังคงเจอเธอคนนี้ตลอด