ถ้าได้เข้าโรงเรียนถาปัดแล้ว คุณจะพูดอย่างภาคภูมิใจว่า "กรูเรียนถาปัดเว่ยยยยยยย" นอกจากพ่อแม่จะยืดอกภูมิใจในตัวลูกแล้ว กิ๊หรือแฟน ก็พร้อมจะเดินควงเราไปอวดกับชาวบ้านว่า "แฟนชั้นเรียนถาปัด" แล้วก็จะตามมาด้วย "อู้ววว ว๊าววววว เก่งจังลยยยย......เท่มั่กมากกกก" เราก็แจกยิ้มปายยยย ถึงปากจะบอกว่า เราไม่เก่งเท่าไหร่..แต่ใจก็ออกหลงตัวเอง (มั่งล่ะน่า)
แต่คุณไม่รู้ใช่มั้ยคะ เคยมีคนพูดว่า "เด็กถาปัด เข้าเรียนปีหนึ่งเป็นเด็ก จบออกมาเป็นลุง" เพราะมันงานหนักสิ้นดี .... นอนก็ไม่ได้นอน ... โด๊ปกาแฟ ลิโพ แล้วแต่ถนัด ...ซัดเหล้า เมาบุหรี แล้วแต่ชอบ.... วันๆ ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง..... จนหลายเป็นหมีแพนด้าตัวอ้วนบวมเบียร์.......คุณอาจจะสงสัยว่า เรียนตั้ง 5 ปี มันจะหนักอะไรนักหนาวะ? .....
เพราะ"สถาปัตยกรรมศาสตร์" เป็นศาสตร์ ที่ไม่เชิง "ศิลป์" และไม่เชิง "วิทย์" ..... คุณอยากจะติสท์แตกแบบอาจารย์เฉลิมชัย ไม่มีอารมณ์ไม่ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ ไม่ได้....นอกจากนั้นทุกเส้นที่เราเขียน ทุกจุดที่เราจรดปากกา ทุกสิ่งที่เราออกแบบ ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้ ทั้งในเรื่องทุนทรัพย์ วัสดุ เทคโนโลยี กฎหมาย และ ความพอใจของเจ้าของงาน
ดังนั้นกว่าจะปั้น "วุ้น" ให้เป็น "สถาปนิก" (ที่เกือบจะทำงานได้) 1 คน .... ต้องค่อยๆ เอามือตะล่อมๆ ให้เข้าที่เข้าทางและต้องไม่ขวางความคิดสร้างสรรค์......... พึงระลึกไว้เสมอว่า สถาปนิกและวิศวกรโยธา.... ขาข้างหนึ่งก้าวเข้าไปอยุ่ในตารางแล้วเสมอ
5555555555555 ' โอ้ย กุจะบ้าตายๆๆ