“เคนเนลท์!”
เฮือก!
ร่างบางสะดุ้งเฮือกขึ้นจากเตียง เม็ดเหงื่อเย็นเฉียบผุดพราย สองมือยกขึ้นปิดใบหน้าชุ่มน้ำตาก่อนจะปล่อยเสียงสะอื้นออกมา
เสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกห้อง ก่อนรูมเมตสาวจะเปิดประตูผลัวะเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นไลลา ข้าได้ยินเสียงเจ้าร้อง”
“...เคนเนลท์” ไลลาเกริ่นเพียงแค่นั้น
“เจ้าฝันถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อนอีกแล้วอย่างนั้นหรือ” อีกฝ่ายถามอย่างห่วงใย ก่อนจะเดินเข้ามาปลอบประโลม “ไม่เป็นไร อย่าร้องนะ”
ยิ่งปลอบยิ่งยุ น้ำตาของนางหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย
“ข้าลืมเขาไม่ได้ ทำไมทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้”
“...”
“ข้ายังไม่ได้บอกเขาเลยเฟย์ เจ้าบ้านั่นยังไม่เคยรู้เลยว่าข้ารู้สึกยังไง!”
-----------------------
3 years ago
Death Valley “เจ้า...เจ้านั่นแหละตัวเล็ก”
เสียงใครบางคนเรียกมาจากที่ไกล ๆ ไลลาเบือนหน้าไปมอง พบว่าเป็นเทรเชอร์ฮันเตอร์ของกิลด์แสงสุดท้ายที่กำลังครองเมืองนี้ และที่สำคัญเป็นคู่อริกับสมาคมของนาง
“ว่า?” สาวน้อยเลิกคิ้ว
“ว่างไหม” เขาถามขณะเดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มยื่นมาใกล้จนผู้ใช้เวทสาวต้องผงะถอย “ข้าเบื่อจัง ไปแย่งมินิบอสกับข้าหน่อยสิ”
“แย่งจากคนกิลด์ข้าหรือไง”
“เอาน่า” รอยยิ้มมุมปากของเขาส่งมาให้ “กลัวเหรอ”
ไลลาเชิดหน้าสูง ถูกชะตากับบุรุษเบื้องหน้าอย่างน่าประหลาด โต้ตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มถือดี
“ข้ากลัวใครที่ไหนล่ะ”
“งั้นก็ไปกัน” ชายหนุ่มประตูวาร์ป แล้วเอื้อมมือมาจับมือนาง “อ้อ ข้าชื่อเคนเนลท์นะ”
-----------------------
เคนเนลท์พาเธอมาที่วิหารจตุกร ซึ่งมินิบอสจะเกิดถึงครั้งละสี่ตัว ชายหนุ่มบอกว่านี่ใกล้เวลามันเกิดแล้ว ไลลาสะบัดมือเรียกไม้เท้าเกล็ดน้ำแข็งของตนออกมา
“ว่าแต่เจ้าชื่ออะไร?” เสียงทุ้มถามไถ่
“ไลลา” นางตอบ ก่อนจะพลิ้วกายไปมาอย่างคล่องแคล่วสมชื่อของตน นามไลลานั้น คือไลลาที่หมายถึงเยื้องกราย
“ลูกเล่นเยอะจัง อะโน่นมันเกิดแล้ว ไหนแสดงฝีมือให้ข้าดูหน่อยซิ อยากรู้ว่ากิลด์ซิลวาเนียมีดีแค่ไหน”
จตุกรตัวหนึ่งปรากฏขึ้นไม่ไกลนัก หญิงสาวหันมาพรายยิ้มหวาน ก่อนจะจิกกัดอย่างไม่ยอมแพ้
“ฝีมือดีกว่าแสงสุดท้ายเยอะก็แล้วกัน”
ร่างบางพลิ้วไหวดุจพรายล่องลม ไม้เท้าในมือสะบัดขวับ กรงน้ำแข็งปรากฏขึ้นรอบกายจตุกรร่างยักษ์ ตามมาด้วยสายลมอันหนาวเหน็บกลางฤดูหนาว
“แรงโน้มถ่วง”
วาบ!
ลูกพลังหลอมรวมเข้าด้วยกันเหนือศีรษะของจตุกร ก่อนจะค่อย ๆ ทิ้งลงบนพื้น พลังมหาศาลของมัดเสียดสีกับอากาศจนรอบด้านสั่นสะเทือน
“ธรณีพิโรธ...พสุธาทะลาย”
โครม!
มินิบอสตัวใหญ่ล้มลงฟาดกับพื้น ไลลาหันมามองเคนเนลท์
“ตาเจ้าแล้วนะ”
-----------------------
นักล่าสมบัติหนุ่มมีดีกว่าที่นางคิด มันเป็นเรื่องที่สาวน้อยไม่ค่อยอยากจะยอมรับแต่ให้ทำไงได้ เขาเก่งกว่านางเสียด้วยซ้ำ
ก่อนที่จะจัดการจตุกรตัวสุดท้าย เคนเนลท์ก็ห้ามนางไว้เสียก่อน
“ตัวนี้ข้าขอ พี่ในกิลด์จะจุ”
“- -ได้ไง”
“น่านะคนดี ไม่งั้นข้าจะเอาไปฟ้องว่าเจ้าเป็นหนอน”
หนอนป้ามันสิ
ไลลาได้แต่ก่นด่าในใจอย่างไม่จริงจังนัก เธอหัวเราะคิก ก่อนจะยักไหล่
“ก็เอาสิ ข้าไม่ได้แล้งน้ำใจขนาดนั้น”
นางโยนไม้เท้าขึ้นด้านบน มันหายวับไป ร่างเล็กเดินไปทรุดนั่งที่มุมกำแพง คนของแสงสุดท้ายสามสี่คนเข้ามาในแมพ ดูก็รู้ว่าเป็นคนใหญ่คนโต พวกเขาสนทนาอะไรบางอย่างกับเคนเนลท์ซึ่งไลลาก็ไม่ได้ใคร่ใส่ใจนัก รู้ตัวอีกทีสาวน้อยก็ผล็อยหลับไปเสียแล้ว
เมื่อคนเหล่านั้นจากไป เทรหนุ่มก็เดินกลับมาหาคู่หูคนใหม่ มองนางหลับใหลแล้วลอบยิ้มบาง ใครจะรู้ เขาสะดุดตาเจ้าหล่อนมานานแสนนาน สะดุดนักกับเสียงเจื้อยแจ้วที่ชอบโวยวายในตลาดตอนเช้า ๆ ของคนที่กรี๊ดเสียงดังจนได้ยินไปทั่วแมพตอนตีบวกเสื้อแตก ทั้ง ๆ ที่ของมันก็ยศต่ำเตี้ยเรี่ยดินแท้ ๆ
“ยายบ๊อง”
-----------------------
หลังจากวันนั้นทั้งสองก็พบเจอกันบ่อยขึ้น เคนเนลท์ชอบลากไลลาไปทำนู่นทำนี่ที่นางไม่เคยทำ แย่งบอส เกรียนแบทเทิล แปลงเป็นมอนสเตอร์เพื่อฆ่าพวกที่หาสมุนไพรตามป่าเขา
ไม่ทันรู้ตัว เทรหนุ่มก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของไลลาเสียแล้ว
“ข้าอยากได้กุดเงินจัง” สาวน้อยชี้ไปที่มงกุฎสีเงิน ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินอยู่ในตลาด
“พอแล้ว ประหยัดหน่อย” เคนเนลท์ปราม
“บ่นเป็นพ่อไปได้น่ะ สวยออก” ไม่ทันจะบ่นต่อ ร่างเล็กก็กระโดดแผล็วไปหน้าร้านเสียแล้ว “พี่สาวจ๋า กุดเงินเท่าไหร่”
“แปดสิบเอ็มจ้ะ” คนขายตอบยิ้ม ๆ
“ไลลา!” เคนเนลท์ส่งสายตาดุ ๆ มาให้ แต่คนถูกดุไม่ใส่ใจ
“พี่สาวคนสวย ข้าขอลองใส่หน่อยได้ไหม”
“ตามสบายจ้า”
มงกุฎสีเงินถูกสวมลงบนศีรษะของนาง มันเปล่งประกายอย่างนุ่มนวล ขับให้ดวงหน้าของนางผ่องใส หากไม่รู้จักกัน อาจจะคิดว่านางเป็นองค์หญิงจากดินแดนใด
“พี่สาวลดหน่อยนะ”
“เจ็ดสิบห้าจ้า”
“หกสิบนะ”
เคนเนลท์กุมขมับ มองการต่อราคาแบบไม่กลัวแม่ค้าเขมือบของหญิงสาวแล้วอดสงสารไม่ได้ คงจะอยากได้จริง ๆ
“- -ไม่ขายจ้ะ” แม่ค้าสาวหน้าตึง แต่ไม่ขุ่นใจเพราะเอ็นดูลูกค้าวัยเยาว์ตรงหน้า
“แต่ข้ามีเงินแค่นี้นี่นา”
ทั้งสองจ้องตากันไม่ลดละ สุดท้ายคนขายก็พ่ายแพ้แววอ้อนวอนในดวงตาสีเขียวนั่นอย่างสมบูรณ์แบบ หล่อนถอนหายใจพรืด
“หกสิบก็หกสิบ”
“เย้”
-----------------------
เขาอยู่ที่นั่นเสมอ ยามนางไม่เหลือใคร
“ข้าจะมาอยู่เป็นเพื่อนไง ดีไหม”
เขาคอยปลอบเสมอ เวลาร้องไห้
“ร้องให้พอ แล้วอย่าลืมเงยหน้ามายิ้มให้ข้านะ”
นับแต่วันนั้นในทุกความทรงจำของไลลา มีเคนเนลท์อยู่ในนั้น โดยไม่รู้ตัว