ขอถามถึงกระทู้นี้ หน่อย

[Before]

ร้อยคนร้อยเหตุผล มันไม่จบง่ายๆหรอก
บางอย่างใช้หลักการณ์ตามหลักความเป็นจริงไม่ได้ก็เปิดโหวตแบบประชาธิปไตยไปเลยค่ะ
ถูกหรือผิด ฝ่ายไหนเยอะกว่าก็ยอมรับไป
เหนื่อยไหมคะ??? ทะเลาะ ถกเถียงกันยิ่งกว่ากว่าสอบเอเน็ต โอเน็ต
รีบๆให้มันจบเถอะค่ะ ทีมงานจะได้มีเวลาไปพัฒนาเกมส์
บ่นว่าเกมส์กากกัน แต่เรื่องเล็กเรื่องน้อยก็ทำเป็นเรื่องใหญ่โต
เปิดโหวตเลยค่ะ จบ

ทุกอย่างมีบรรทัดฐานอยู่น่ะครับ 
จะบอกว่าเรื่องเล็กน้อยก็คงไม่ใช่เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
ต่อไปคงจะเจอร้านค้าประเภทนี้ (เช่น ตั้งหน้าร้าน 4.1 M ขาย 4,199,999)
และเกมจะน่าเบื่อมากครับ เพราะคนจ้องแต่จะเอารัดเอาเปรียบกัน
ถามจากใจจริงเลยนะครับ ถ้าเจอร้านค้าประเภทนี้ รู้สึกยังไงครับ ?

ก็ไม่ซื้อ หรือต่อรองราคามันสิ บ้ารึป่าว

หรือคุณเห็นคุณจะรีบดึง? มันเป็นการใช้ช่องว่างของกฏไง เป็นเทคนิคการขาย

ถ้าเห็นว่าโดนเอาเปรียบ คุณจะซื้อทำไม อ่อ ถ้าอยากให้มากเรื่อง ลองโทรไปสอบถาม สคบ นะ

ว่าการโฆษณาลักษณะแบบนี้ผิดมั้ย ถามเลย ว่าการตั้งราคาขาย 2.3 ล้าน แต่พอผมไปสอบถามจริงๆ

ทางโครงการมันขายให้ผม 2.35 ล้าน ถาม สคบ นะว่าผิดหรือป่าว จะได้จบๆ หน่ายเอ็งจริง

หมาเลียตูดไม่ถึงแล้วยังคิดอะไรไม่เป็น ตรรกะควายๆแบบนี้ อย่ามาใช้เลย เพลียจะตอบ

[nutlovely]

ขาย 2.3 เอม   2.3 เอมไม่ใช่ราคาเต็มของสินค้า แล้วมันจะเป็นราคาที่แน่นอนได้ยังไละครับท่าน ในเมื่อ 2.3 เอมถูกย่อหลักล้านและหลักแสนเอามาจากราคาเต็ม  เพื่อติดประกาศโฆษณา  ราคาจริงเต็มจำนวนคือ 2.380.000   ก็ตราบใดที่หลักที่ย่อมาจากจำนวนเต็มจริงมันตรงกัน  มันไม่ใช่การหลอกลวง ย่อมาเพื่อโฆษณา  มันจะหลอกลวงต่อเมื่อคุณตั้ง  ขายราคา 2.3 เอม  แล้วสินค้าในร้านคุณเป็น 2.400.000  หลักล้านและหลักแสนคุณไม่ตรงกับที่คุณย่อไปโฆษณา  หรือถ้าเค้าบอกว่า ขายราคา 2.3 ล้านถ้วน  นั่นคือต้องเป็น 2.300.000 เท่านั้น จะมีเศษไม่ได้เพราะมันถ้วน  ถ้วนเป็นคำบังคับจำนวนเต็ม  เวลาคุณไปซื้อของได้ใบเสร็จมาเค้าลงว่าซื้อของไป 6.5 หมื่นบาท หรือ 65.000 บาทครับ  ถ้าคุณจะเอาว่า  2.3 เอมคือราคาที่ระบุแน่นอน ทำไมในใบเสร็จไม่ลงมาแค่ 6.5 หมื่นบาทละ สั้นๆ ห้วนๆ เพราะมันคือจำนวนระบุแน่นอน  จะ .000 มาทำไม  ถูกไหมครับ

ผมถามหน่อย คุณระบุเหรอครับว่าไม่ใช่ราคาเต็ม ? คุณระบุเหรอครับว่า เริ่มต้นที่ 2.3 M ? แต่คุณมายกมาพูดเอาทีหลัง
แล้วผมถามหน่อย ถ้าสมมุตคุณซื้อของกับผม ตกลงราคากันที่ 2.3 M จะเดลเงินให้ผม 2.38 M มั้ยครับ ?

แล้วถ้าจะให้ย่อว่า ขายราคา 2.38 เอมก็สามารถทำได้ แต่เค้าย่อมาแค่ 2 หลักคือล้านและแสน มันยังไม่มีกฏไปบังคับเค้าน๊ะครับว่าต้องย่อเศษมาด้วย  เพราะถ้าไปบังคับว่าต้องย่อเศษมาด้วย มันจะไม่เรียกว่าการย่อครับและการโฆษณาจะไม่สามารถย่อกันได้เลย ต้องลงเต็มหมด  ถ้าการใช้ตัวย่อที่ตรงกับหลักของราคาจริงที่ย่อมา  แล้วจะไปบังคับราคาจริงมีเศษส่วนต้องเอามาลงแสดงในโฆษณาทั้งหมดนั่นเท่ากับห้ามย่อกันเลยน๊ะครับ บังคับว่ามีเศษห้ามย่อ    ถ้าผมขายของ 2.389.999  ผมมีเนื่อที่ช่องหรือเนื้อที่โฆษณาไม่พอ  ผมจะย่อไปยังไงครับ  แล้วถ้าให้ลงเศษด้วยมันจะเรียกย่อยังไง   หรือถ้าผมมีพื้นที่พอ ผมก็ลง 2.389.999  ไปเลย  แล้วของในร้านก็ราคานี้จริง  แบบนี้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ใครจะกล้าออกกฏบ้างครับว่าถ้ามีเศษห้ามย่อ    ส่วนมากที่เค้าย่อมาโฆษณา เค้าจะเอาจากหลักหน้าสำคัญๆมา ไม่ว่าจะหน่วยเป็นอะไรก็ตาม สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน  เพราะเป็นหลักแม่บท หลักสำคัญของจำนวนเงิน  ส่วนรายละเอียดเต็มๆต้องมาดูที่ตัวสินค้าหรือราคาจริงว่ามีเศษส่วนเท่าไหร่

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎข้ออื่นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับกฎราคาตั้ง กับราคาขายจริงไม่เหมือนกัน
คุณลองพิจารณาถึงบรรทัดฐานที่ผมพูดเรื่องเดลเงินเมื่อกีีดูนะครับ
ถ้าคุณตั้งราคาเป็น 2.38 M แล้วขายแบบนั้นก็จบนี่ครับ แล้วจะตั้งเศษเพื่อ ?
หรือถ้าจะขาย 2.389.999  ก้อตั้งว่า ขายถูกกว่า 2.4M ก้อจบครับ

ตั้งว่าขาย 4.1 M แต่ขายจริงราคา 4,199,999 ถ้าคนที่ดูป้าย แล้วดึงโดยที่ไม่ดูราคาจริงๆ  คนซื้อก็เสียผลประโยชน์
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ครับ

   เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังครับ ผมก็เข้าใจประเด็นนี้  แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้หลอกและเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ  คุณเป็นคนควักจ่ายออกไปต้องดูให้ดีครับ  การเลือกซื้อสินค้าต้องดูถ้วนถี่  ชีวิตจริงคุณไปซื้อของอย่างรีบร้อน คุณไม่ได้เลือกได้ดูให้ดี คุณก็อาจจะได้ของไม่ดีมาก็ได้  และในทางกลับกัน  ถ้าผมตั้งร้านขาย 4.1 เอม  แต่ผมตั้งราคาของในร้านผิด ไปตั้ง 419.999 แสนแล้วคุณดึงไป  คนขายเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนซื้อของที่ไม่ได้ดูให้ดีหรอกครับ  แล้วจะมีใครรับเรื่องแจ้งของผู้ค้าว่าตกเป็นผู้เสียหายบ้าง  ในเมื่อถ้าคนซื้อไม่รอบคอบ ไม่ได้ดูราคาสินค้าจริงในร้านแล้วดึงไป ตกเป็นผู้เสียหายจากไอ้ตัวเศษส่วนราคาสินค้าจริง  กับคนขายตั้งผิดจากราคาจริงแล้วคนซื้อดึงไป คนขายก็ตกเป็นผู้เสียหาย  จะมีใครเอามาแจ้งมั้ยว่า ผมตั้งป้ายขาย 4.1 ล้าน แต่ของในร้านดันขาย 4.1 แสน  ราคาที่ประกาศโฆษณาไม่ตรงกับราคาสินค้าที่ขายจริง ถึงราคาไม่โอเวอร์เกินจริง แต่มันก็บรรทัดฐานเดียวกันคือมันไม่ตรง คุณก็ติดคุกสิครับมาดึงของผมไป  เพราะคุณก็เห็นๆว่าป้ายผมตั้งขาย 4.1 เอม คุณบอกว่า 4.1 เอมจากป้ายที่โฆษณามันคือราคาระบุแน่นอน แสดงว่าคุณก็รู้ว่าผมขายหลักล้านขึ้น  แต่ผมตั้งผิดเพราะดูไม่ดี ไปตั้งตัวสินค้าในร้าน 4.1 แสน คุณก็รู้ๆว่าไม่ตรงยังดึงไปอีก เจตนาไม่ดี  ผมแจ้งจับมั่งน๊ะ   เพราะมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่ผมตั้งราคาจริงโดยไม่ดูให้ดี กับ คุณมาซื้อของไปโดยไม่ดูให้ดี  เมื่อพลาดมันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ ผมเสียหายจากการตั้งไม่ดี คุณเสียหายจาการดูไม่ดี สิ่งแลกเปลี่ยนมันอยู่ที่ของกันและกัน มันเอาไปจากกันไม่ได้ถ้าไม่ยินยอม  ไม่ใช่การข่มขู่บังคับ ฉะนั้นต้องดูให้ดี

ร้านที่คุณตั้ง มันเข้าประเด็นนี้นะครับมันเป็นการขายเกินราคา กรณีเดียวกัน 
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า ตั้งราคาไว้แล้วขายจริงต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
คุณอย่าลืมนะครับว่ากฎนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นประเด็นการดึงสินค้าของลูกค้า ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ครับ
ในชีวิตจริง ถ้าคนขาย ขายถูกกว่าฉลากที่ตั้งไว้ มีความผิดไหมครับ
ผมจะบอกไว้อย่างนะครับ
ที่คุณยกเรื่องการโฆษนามาอ้าง อยากจะบอกว่า ถ้าในชีวิตจริง การระบุแบบนี้ คือการระบุราคาที่ฉลากของสินค้า
เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่าใบประกัน 2.3M คุณก็ต้องขายสองล้านสามแสนบิลล่าถ้วน
ถ้าขายเกินกว่าราคาที่ระบุไว้ ก็มีความผิด ฟ้องร้องได้ครับ

[/b]

มันไม่ใช่ป้ายฉลากราคา ที่ติดตามสินค้า แต่มันคือป้ายประกาศราคาเพื่อดึงดูดคนมาดูสินค้า

ส่วนจะตัดสินใจซื้อไม่ซื้อ ก็เรื่องของคนซื้อ มันไม่ใช่สลากติดขวด มันคือป้ายประกาศราคาเห้ย...

ผมถามคุณนะครับ ตรงป้ายหน้าร้านทำไรได้บ้าง ?
1. ชื่อร้าน
2. โฆษนาชวนเชื่อ
3. ระบุราคา
อันนี้ก็เห็นๆอยู่นะครับ ว่าระบุราคาขาย เพราะมีการบอกว่า ของชิ้นนี้ ราคาเท่านี้

[Before]

ต่างคนต่างมีหลักการ ต่างคนต่างมีจุดยืน ถกด้วยเหตุและผลแล้วยังไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายรับได้

ในเมือ G-Dragon ถูกแจ้งว่าเป็นผู้กระทำผิด G-Dragon ก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง

โดยการชี้แจงให้คนที่ถือกฏในเกมส์รับทราบ และในเมื่อคนที่มีอำนาจเต็มเปลี่ยนแปลงตัดสินแล้ว ก็สมควรยอมรับ

ปัญหาต่างๆจะได้จบ แต่ถ้าคิดว่าการตั้งราคาแบบนี้เป็นการเอารัดเอาเปรียบและทำให้เกมส์ไม่น่าเล่น

ผมก็คิดว่าเกมส์นี้ขาด nutlovely ไปซักคน สังคมในเกมส์น่าจะสูงขึ้นนะ

เอาเป็นว่าผมเห็นวุฒิภาวะของคุณแล้ว ขี้เกียจเถียงด้วยจังเลยครับ
ยังไงในชีวิตจริง เค้าก็มีต่อสู้กันในศาลหลายขั้นนะครับ
ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา  ถ้าคุณลองมาเถียงกันด้วยเหตุผล
คุณจะดูดีกว่านี้นะครับ ไม่ใช่ดูแย่แบบนี้

ผมก็เห็นวุฒิภาวะของคุณแล้ว ผมก็ไม่อยากเปลืองนิ้วเลยครับ

แต่เห็นคนมันดื้อด้านไม่ยอมรับกฏกติกาตัดสินมาแล้ว มันยังด้านแถ ว่าผิดโน้นผิดนี่

มันก็ต้องมีออกความเห็นหน่อย  แหม อย่ามาอ้างศาลเลยครับ คดีแบบนี้คุณเอาไปฟ้อง

อัยการเค้าก็สั่งไม่ฟ้องแล้วล่ะครับ ไม่ต้องถึงศาลหรอก 5555+++

เผลอๆ ไม่ต้องถึงชั้นอัยการครับ แค่พนักงานสอบสวนเค้าเห็นเค้าก็หัวเราะงอหายแล้วล่ะ

[nutlovely]

ต่างคนต่างมีหลักการ ต่างคนต่างมีจุดยืน ถกด้วยเหตุและผลแล้วยังไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายรับได้

ในเมือ G-Dragon ถูกแจ้งว่าเป็นผู้กระทำผิด G-Dragon ก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง

โดยการชี้แจงให้คนที่ถือกฏในเกมส์รับทราบ และในเมื่อคนที่มีอำนาจเต็มเปลี่ยนแปลงตัดสินแล้ว ก็สมควรยอมรับ

ปัญหาต่างๆจะได้จบ แต่ถ้าคิดว่าการตั้งราคาแบบนี้เป็นการเอารัดเอาเปรียบและทำให้เกมส์ไม่น่าเล่น

ผมก็คิดว่าเกมส์นี้ขาด nutlovely ไปซักคน สังคมในเกมส์น่าจะสูงขึ้นนะ

เอาเป็นว่าผมเห็นวุฒิภาวะของคุณแล้ว ขี้เกียจเถียงด้วยจังเลยครับ
ยังไงในชีวิตจริง เค้าก็มีต่อสู้กันในศาลหลายขั้นนะครับ
ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา  ถ้าคุณลองมาเถียงกันด้วยเหตุผล
คุณจะดูดีกว่านี้นะครับ ไม่ใช่ดูแย่แบบนี้

ผมก็เห็นวุฒิภาวะของคุณแล้ว ผมก็ไม่อยากเปลืองนิ้วเลยครับ

แต่เห็นคนมันดื้อด้านไม่ยอมรับกฏกติกาตัดสินมาแล้ว มันยังด้านแถ ว่าผิดโน้นผิดนี่

มันก็ต้องมีออกความเห็นหน่อย  แหม อย่ามาอ้างศาลเลยครับ คดีแบบนี้คุณเอาไปฟ้อง

อัยการเค้าก็สั่งไม่ฟ้องแล้วล่ะครับ ไม่ต้องถึงศาลหรอก 5555+++

เผลอๆ ไม่ต้องถึงชั้นอัยการครับ แค่พนักงานสอบสวนเค้าเห็นเค้าก็หัวเราะงอหายแล้วล่ะ

รอฟังทีมงานดีกว่าครับ
ผมลองสอบถามจากผู้เล่นหลายๆ คน ใครๆ ก็บอกว่ากรณีนี้ผิดครับ
ผมอยากรู้เหตุผลจากทีมงานเหมือนกัน
และถ้าให้กรณีนี้คุณ -G-Dragon เป็นฝ่ายถูก
ต่อไปผมจะได้บอกให้ทุกคนที่รู้จัก ตั้งราคาประมาณนี้นะครับ
ขายยศเยี่ยม 1.2 M แต่ราคาขายจริง 1,299,999 บิลล่า

[Before]

ขาย 2.3 เอม   2.3 เอมไม่ใช่ราคาเต็มของสินค้า แล้วมันจะเป็นราคาที่แน่นอนได้ยังไละครับท่าน ในเมื่อ 2.3 เอมถูกย่อหลักล้านและหลักแสนเอามาจากราคาเต็ม  เพื่อติดประกาศโฆษณา  ราคาจริงเต็มจำนวนคือ 2.380.000   ก็ตราบใดที่หลักที่ย่อมาจากจำนวนเต็มจริงมันตรงกัน  มันไม่ใช่การหลอกลวง ย่อมาเพื่อโฆษณา  มันจะหลอกลวงต่อเมื่อคุณตั้ง  ขายราคา 2.3 เอม  แล้วสินค้าในร้านคุณเป็น 2.400.000  หลักล้านและหลักแสนคุณไม่ตรงกับที่คุณย่อไปโฆษณา  หรือถ้าเค้าบอกว่า ขายราคา 2.3 ล้านถ้วน  นั่นคือต้องเป็น 2.300.000 เท่านั้น จะมีเศษไม่ได้เพราะมันถ้วน  ถ้วนเป็นคำบังคับจำนวนเต็ม  เวลาคุณไปซื้อของได้ใบเสร็จมาเค้าลงว่าซื้อของไป 6.5 หมื่นบาท หรือ 65.000 บาทครับ  ถ้าคุณจะเอาว่า  2.3 เอมคือราคาที่ระบุแน่นอน ทำไมในใบเสร็จไม่ลงมาแค่ 6.5 หมื่นบาทละ สั้นๆ ห้วนๆ เพราะมันคือจำนวนระบุแน่นอน  จะ .000 มาทำไม  ถูกไหมครับ

ผมถามหน่อย คุณระบุเหรอครับว่าไม่ใช่ราคาเต็ม ? คุณระบุเหรอครับว่า เริ่มต้นที่ 2.3 M ? แต่คุณมายกมาพูดเอาทีหลัง
แล้วผมถามหน่อย ถ้าสมมุตคุณซื้อของกับผม ตกลงราคากันที่ 2.3 M จะเดลเงินให้ผม 2.38 M มั้ยครับ ?

แล้วถ้าจะให้ย่อว่า ขายราคา 2.38 เอมก็สามารถทำได้ แต่เค้าย่อมาแค่ 2 หลักคือล้านและแสน มันยังไม่มีกฏไปบังคับเค้าน๊ะครับว่าต้องย่อเศษมาด้วย  เพราะถ้าไปบังคับว่าต้องย่อเศษมาด้วย มันจะไม่เรียกว่าการย่อครับและการโฆษณาจะไม่สามารถย่อกันได้เลย ต้องลงเต็มหมด  ถ้าการใช้ตัวย่อที่ตรงกับหลักของราคาจริงที่ย่อมา  แล้วจะไปบังคับราคาจริงมีเศษส่วนต้องเอามาลงแสดงในโฆษณาทั้งหมดนั่นเท่ากับห้ามย่อกันเลยน๊ะครับ บังคับว่ามีเศษห้ามย่อ    ถ้าผมขายของ 2.389.999  ผมมีเนื่อที่ช่องหรือเนื้อที่โฆษณาไม่พอ  ผมจะย่อไปยังไงครับ  แล้วถ้าให้ลงเศษด้วยมันจะเรียกย่อยังไง   หรือถ้าผมมีพื้นที่พอ ผมก็ลง 2.389.999  ไปเลย  แล้วของในร้านก็ราคานี้จริง  แบบนี้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ใครจะกล้าออกกฏบ้างครับว่าถ้ามีเศษห้ามย่อ    ส่วนมากที่เค้าย่อมาโฆษณา เค้าจะเอาจากหลักหน้าสำคัญๆมา ไม่ว่าจะหน่วยเป็นอะไรก็ตาม สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน  เพราะเป็นหลักแม่บท หลักสำคัญของจำนวนเงิน  ส่วนรายละเอียดเต็มๆต้องมาดูที่ตัวสินค้าหรือราคาจริงว่ามีเศษส่วนเท่าไหร่

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎข้ออื่นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับกฎราคาตั้ง กับราคาขายจริงไม่เหมือนกัน
คุณลองพิจารณาถึงบรรทัดฐานที่ผมพูดเรื่องเดลเงินเมื่อกีีดูนะครับ
ถ้าคุณตั้งราคาเป็น 2.38 M แล้วขายแบบนั้นก็จบนี่ครับ แล้วจะตั้งเศษเพื่อ ?
หรือถ้าจะขาย 2.389.999  ก้อตั้งว่า ขายถูกกว่า 2.4M ก้อจบครับ

ตั้งว่าขาย 4.1 M แต่ขายจริงราคา 4,199,999 ถ้าคนที่ดูป้าย แล้วดึงโดยที่ไม่ดูราคาจริงๆ  คนซื้อก็เสียผลประโยชน์
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ครับ

   เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังครับ ผมก็เข้าใจประเด็นนี้  แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้หลอกและเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ  คุณเป็นคนควักจ่ายออกไปต้องดูให้ดีครับ  การเลือกซื้อสินค้าต้องดูถ้วนถี่  ชีวิตจริงคุณไปซื้อของอย่างรีบร้อน คุณไม่ได้เลือกได้ดูให้ดี คุณก็อาจจะได้ของไม่ดีมาก็ได้  และในทางกลับกัน  ถ้าผมตั้งร้านขาย 4.1 เอม  แต่ผมตั้งราคาของในร้านผิด ไปตั้ง 419.999 แสนแล้วคุณดึงไป  คนขายเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนซื้อของที่ไม่ได้ดูให้ดีหรอกครับ  แล้วจะมีใครรับเรื่องแจ้งของผู้ค้าว่าตกเป็นผู้เสียหายบ้าง  ในเมื่อถ้าคนซื้อไม่รอบคอบ ไม่ได้ดูราคาสินค้าจริงในร้านแล้วดึงไป ตกเป็นผู้เสียหายจากไอ้ตัวเศษส่วนราคาสินค้าจริง  กับคนขายตั้งผิดจากราคาจริงแล้วคนซื้อดึงไป คนขายก็ตกเป็นผู้เสียหาย  จะมีใครเอามาแจ้งมั้ยว่า ผมตั้งป้ายขาย 4.1 ล้าน แต่ของในร้านดันขาย 4.1 แสน  ราคาที่ประกาศโฆษณาไม่ตรงกับราคาสินค้าที่ขายจริง ถึงราคาไม่โอเวอร์เกินจริง แต่มันก็บรรทัดฐานเดียวกันคือมันไม่ตรง คุณก็ติดคุกสิครับมาดึงของผมไป  เพราะคุณก็เห็นๆว่าป้ายผมตั้งขาย 4.1 เอม คุณบอกว่า 4.1 เอมจากป้ายที่โฆษณามันคือราคาระบุแน่นอน แสดงว่าคุณก็รู้ว่าผมขายหลักล้านขึ้น  แต่ผมตั้งผิดเพราะดูไม่ดี ไปตั้งตัวสินค้าในร้าน 4.1 แสน คุณก็รู้ๆว่าไม่ตรงยังดึงไปอีก เจตนาไม่ดี  ผมแจ้งจับมั่งน๊ะ   เพราะมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่ผมตั้งราคาจริงโดยไม่ดูให้ดี กับ คุณมาซื้อของไปโดยไม่ดูให้ดี  เมื่อพลาดมันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ ผมเสียหายจากการตั้งไม่ดี คุณเสียหายจาการดูไม่ดี สิ่งแลกเปลี่ยนมันอยู่ที่ของกันและกัน มันเอาไปจากกันไม่ได้ถ้าไม่ยินยอม  ไม่ใช่การข่มขู่บังคับ ฉะนั้นต้องดูให้ดี

ร้านที่คุณตั้ง มันเข้าประเด็นนี้นะครับมันเป็นการขายเกินราคา กรณีเดียวกัน 
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า ตั้งราคาไว้แล้วขายจริงต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
คุณอย่าลืมนะครับว่ากฎนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นประเด็นการดึงสินค้าของลูกค้า ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ครับ
ในชีวิตจริง ถ้าคนขาย ขายถูกกว่าฉลากที่ตั้งไว้ มีความผิดไหมครับ
ผมจะบอกไว้อย่างนะครับ
ที่คุณยกเรื่องการโฆษนามาอ้าง อยากจะบอกว่า ถ้าในชีวิตจริง การระบุแบบนี้ คือการระบุราคาที่ฉลากของสินค้า
เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่าใบประกัน 2.3M คุณก็ต้องขายสองล้านสามแสนบิลล่าถ้วน
ถ้าขายเกินกว่าราคาที่ระบุไว้ ก็มีความผิด ฟ้องร้องได้ครับ

[/b]

มันไม่ใช่ป้ายฉลากราคา ที่ติดตามสินค้า แต่มันคือป้ายประกาศราคาเพื่อดึงดูดคนมาดูสินค้า

ส่วนจะตัดสินใจซื้อไม่ซื้อ ก็เรื่องของคนซื้อ มันไม่ใช่สลากติดขวด มันคือป้ายประกาศราคาเห้ย...

ผมถามคุณนะครับ ตรงป้ายหน้าร้านทำไรได้บ้าง ?
1. ชื่อร้าน
2. โฆษนาชวนเชื่อ
3. ระบุราคา
อันนี้ก็เห็นๆอยู่นะครับ ว่าระบุราคาขาย เพราะมีการบอกว่า ของชิ้นนี้ ราคาเท่านี้

ไอ่ที่คุณพูดมามันก็ตรงประเด็นแล้วนี่ครับ โฆษณาชวนเชื่อ

ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า จะโฆษณายังไงให้ลูกค้าเค้าตัดสินใจมาซื้อของๆเรา โดยไม่ได้หลอกลวง

ความจริงประเด็นนี้น่ะมันมีทั่วไปในสังคมชีวิตจริงครับ มันไม่ผิดกฏหมาย แต่มันผิดจริยธรรม

แต่จริยธรรมมันไม่ได้บัญญัติไว้เป็นกฏหมายไง มันเลยไม่ต้องโดนลงโทษอะไร

เอาล่ะมาเข้าประเด็นที่ถามต่อการที่คุณจะตั้งร้าน คุณต้องคิดแล้วล่ะว่าคุณจะทำยังไงให้ของคุณขายได้ในราคาที่คุณพอใจ

ตามหลักการตลาดของพวกพ่อค้า ส่วนใหญ่จะบอกความจริงกับผู้บริโภค แต่บอกไม่หมด

เข้าใจไม่ครับ เค้าไม่ได้ปิดบังคุณ แต่เค้าบอกคุณไม่หมด เพื่ออะไร? ก็เพื่อให้คุณเข้ามาสนใจในสินค้าของเค้าไงครับ

เคยมั้ยครับ เข้าห้างไปคุณไปเจอพนักงานขาย คุณอยากได้ทีวีราคาถูกที่ติดป้าย Sale ไว้

แต่ไอ้พนักงานขายมันชอบขยั้นขะยอให้คุณมาซื้อของที่แพงกว่า ผมถามหน่อยถ้าคุณไม่เห็นป้ายราคา Sale ไว้น่ะ

คุณจะเข้าไปดูสินค้ามันมั้ย ฉันใดฉันนั้นครับ การตั้งป้ายราคาโฆษณาชวนเชื่อที่คุณถาม มันก็บ่งบอกคุณลักษณะของมันไว้อยู่แล้ว

ลองเปิดใจให้กว้างครับ อย่าอคติเพียงเพราะว่ากระทู้ที่คุณแจ้ง มันดันมาโดนเปลี่ยนเรื่องการลงโทษ

คุณเองก็บอกเสมอนิครับ ว่าในเกมส์คุณไม่ซีเรียสอะไร แล้วเรื่องแค่นี้มันจะทำให้สังคมในเกมส์ในอุดมคติของคุณมันน่าเบื่อเชียวหรือ

[Before]

ต่างคนต่างมีหลักการ ต่างคนต่างมีจุดยืน ถกด้วยเหตุและผลแล้วยังไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายรับได้

ในเมือ G-Dragon ถูกแจ้งว่าเป็นผู้กระทำผิด G-Dragon ก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง

โดยการชี้แจงให้คนที่ถือกฏในเกมส์รับทราบ และในเมื่อคนที่มีอำนาจเต็มเปลี่ยนแปลงตัดสินแล้ว ก็สมควรยอมรับ

ปัญหาต่างๆจะได้จบ แต่ถ้าคิดว่าการตั้งราคาแบบนี้เป็นการเอารัดเอาเปรียบและทำให้เกมส์ไม่น่าเล่น

ผมก็คิดว่าเกมส์นี้ขาด nutlovely ไปซักคน สังคมในเกมส์น่าจะสูงขึ้นนะ

เอาเป็นว่าผมเห็นวุฒิภาวะของคุณแล้ว ขี้เกียจเถียงด้วยจังเลยครับ
ยังไงในชีวิตจริง เค้าก็มีต่อสู้กันในศาลหลายขั้นนะครับ
ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา  ถ้าคุณลองมาเถียงกันด้วยเหตุผล
คุณจะดูดีกว่านี้นะครับ ไม่ใช่ดูแย่แบบนี้

ผมก็เห็นวุฒิภาวะของคุณแล้ว ผมก็ไม่อยากเปลืองนิ้วเลยครับ

แต่เห็นคนมันดื้อด้านไม่ยอมรับกฏกติกาตัดสินมาแล้ว มันยังด้านแถ ว่าผิดโน้นผิดนี่

มันก็ต้องมีออกความเห็นหน่อย  แหม อย่ามาอ้างศาลเลยครับ คดีแบบนี้คุณเอาไปฟ้อง

อัยการเค้าก็สั่งไม่ฟ้องแล้วล่ะครับ ไม่ต้องถึงศาลหรอก 5555+++

เผลอๆ ไม่ต้องถึงชั้นอัยการครับ แค่พนักงานสอบสวนเค้าเห็นเค้าก็หัวเราะงอหายแล้วล่ะ

รอฟังทีมงานดีกว่าครับ
ผมลองสอบถามจากผู้เล่นหลายๆ คน ใครๆ ก็บอกว่ากรณีนี้ผิดครับ
ผมอยากรู้เหตุผลจากทีมงานเหมือนกัน
และถ้าให้กรณีนี้คุณ -G-Dragon เป็นฝ่ายถูก
ต่อไปผมจะได้บอกให้ทุกคนที่รู้จัก ตั้งราคาประมาณนี้นะครับ
ขายยศเยี่ยม 1.2 M แต่ราคาขายจริง 1,299,999 บิลล่า

ทีมงานแจ้งแล้วครับว่าไม่ผิด ไม่เข้าข่ายหลอกลวง ถ้าหลอกลวงต้องเป็นในลักษณะ

ประกาศขาย 500 เค แต่ในร้าน 5 เอ็ม ไม่ต้องรอหรอกนะครับ

แล้วไอ้คนที่คุณรู้จักก็ให้เค้าตั้งราคาแบบนั้นก็ได้ครับ ไม่ผิดกฏอะไร ส่วนจะขายออกไม่ออก

ผมว่าคุณอย่าดูถูกสติปัญญาของผู้เล่นท่านอื่นเลยครับ เค้าก็คงไปซื้อร้านที่ขาย 1.2 ถ้วนมากกว่านะครับ

ตามสบาย 

[first@lonely]

กฏเกมส์ไม่มีตายตัวอยู่แล้วในเมื่อทีมงานประชุมได้ข้อสรุปว่า“เคสนี้ไม่ผิด”
ก็ใช้หลักการณ์ตามใจฉันจะอยู่หรือไป
เหมือนบางกลุ่มในเฟซ ใช้เงินในเกมส์เล่นพนันบอล
เจตนาเขาเราไม่รู้ เจตนาเรามันก็คือการพนัน ไม่มีกฏคุ้มครองในกลุ่ม
ถึงแม้เยาวชนมีสิทธิ์ติดการพนัน เราไม่ชอบก็ออก
บางกลุ่มซ้ำซากแล้ว เราก็กดออกได้อีก
แค่นี้เรื่องจบ พี่นิวก็ทำได้ เคยทำแล้วนี่คะ

[nutlovely]

ขาย 2.3 เอม   2.3 เอมไม่ใช่ราคาเต็มของสินค้า แล้วมันจะเป็นราคาที่แน่นอนได้ยังไละครับท่าน ในเมื่อ 2.3 เอมถูกย่อหลักล้านและหลักแสนเอามาจากราคาเต็ม  เพื่อติดประกาศโฆษณา  ราคาจริงเต็มจำนวนคือ 2.380.000   ก็ตราบใดที่หลักที่ย่อมาจากจำนวนเต็มจริงมันตรงกัน  มันไม่ใช่การหลอกลวง ย่อมาเพื่อโฆษณา  มันจะหลอกลวงต่อเมื่อคุณตั้ง  ขายราคา 2.3 เอม  แล้วสินค้าในร้านคุณเป็น 2.400.000  หลักล้านและหลักแสนคุณไม่ตรงกับที่คุณย่อไปโฆษณา  หรือถ้าเค้าบอกว่า ขายราคา 2.3 ล้านถ้วน  นั่นคือต้องเป็น 2.300.000 เท่านั้น จะมีเศษไม่ได้เพราะมันถ้วน  ถ้วนเป็นคำบังคับจำนวนเต็ม  เวลาคุณไปซื้อของได้ใบเสร็จมาเค้าลงว่าซื้อของไป 6.5 หมื่นบาท หรือ 65.000 บาทครับ  ถ้าคุณจะเอาว่า  2.3 เอมคือราคาที่ระบุแน่นอน ทำไมในใบเสร็จไม่ลงมาแค่ 6.5 หมื่นบาทละ สั้นๆ ห้วนๆ เพราะมันคือจำนวนระบุแน่นอน  จะ .000 มาทำไม  ถูกไหมครับ

ผมถามหน่อย คุณระบุเหรอครับว่าไม่ใช่ราคาเต็ม ? คุณระบุเหรอครับว่า เริ่มต้นที่ 2.3 M ? แต่คุณมายกมาพูดเอาทีหลัง
แล้วผมถามหน่อย ถ้าสมมุตคุณซื้อของกับผม ตกลงราคากันที่ 2.3 M จะเดลเงินให้ผม 2.38 M มั้ยครับ ?

แล้วถ้าจะให้ย่อว่า ขายราคา 2.38 เอมก็สามารถทำได้ แต่เค้าย่อมาแค่ 2 หลักคือล้านและแสน มันยังไม่มีกฏไปบังคับเค้าน๊ะครับว่าต้องย่อเศษมาด้วย  เพราะถ้าไปบังคับว่าต้องย่อเศษมาด้วย มันจะไม่เรียกว่าการย่อครับและการโฆษณาจะไม่สามารถย่อกันได้เลย ต้องลงเต็มหมด  ถ้าการใช้ตัวย่อที่ตรงกับหลักของราคาจริงที่ย่อมา  แล้วจะไปบังคับราคาจริงมีเศษส่วนต้องเอามาลงแสดงในโฆษณาทั้งหมดนั่นเท่ากับห้ามย่อกันเลยน๊ะครับ บังคับว่ามีเศษห้ามย่อ    ถ้าผมขายของ 2.389.999  ผมมีเนื่อที่ช่องหรือเนื้อที่โฆษณาไม่พอ  ผมจะย่อไปยังไงครับ  แล้วถ้าให้ลงเศษด้วยมันจะเรียกย่อยังไง   หรือถ้าผมมีพื้นที่พอ ผมก็ลง 2.389.999  ไปเลย  แล้วของในร้านก็ราคานี้จริง  แบบนี้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ใครจะกล้าออกกฏบ้างครับว่าถ้ามีเศษห้ามย่อ    ส่วนมากที่เค้าย่อมาโฆษณา เค้าจะเอาจากหลักหน้าสำคัญๆมา ไม่ว่าจะหน่วยเป็นอะไรก็ตาม สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน  เพราะเป็นหลักแม่บท หลักสำคัญของจำนวนเงิน  ส่วนรายละเอียดเต็มๆต้องมาดูที่ตัวสินค้าหรือราคาจริงว่ามีเศษส่วนเท่าไหร่

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎข้ออื่นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับกฎราคาตั้ง กับราคาขายจริงไม่เหมือนกัน
คุณลองพิจารณาถึงบรรทัดฐานที่ผมพูดเรื่องเดลเงินเมื่อกีีดูนะครับ
ถ้าคุณตั้งราคาเป็น 2.38 M แล้วขายแบบนั้นก็จบนี่ครับ แล้วจะตั้งเศษเพื่อ ?
หรือถ้าจะขาย 2.389.999  ก้อตั้งว่า ขายถูกกว่า 2.4M ก้อจบครับ

ตั้งว่าขาย 4.1 M แต่ขายจริงราคา 4,199,999 ถ้าคนที่ดูป้าย แล้วดึงโดยที่ไม่ดูราคาจริงๆ  คนซื้อก็เสียผลประโยชน์
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ครับ

   เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังครับ ผมก็เข้าใจประเด็นนี้  แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้หลอกและเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ  คุณเป็นคนควักจ่ายออกไปต้องดูให้ดีครับ  การเลือกซื้อสินค้าต้องดูถ้วนถี่  ชีวิตจริงคุณไปซื้อของอย่างรีบร้อน คุณไม่ได้เลือกได้ดูให้ดี คุณก็อาจจะได้ของไม่ดีมาก็ได้  และในทางกลับกัน  ถ้าผมตั้งร้านขาย 4.1 เอม  แต่ผมตั้งราคาของในร้านผิด ไปตั้ง 419.999 แสนแล้วคุณดึงไป  คนขายเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนซื้อของที่ไม่ได้ดูให้ดีหรอกครับ  แล้วจะมีใครรับเรื่องแจ้งของผู้ค้าว่าตกเป็นผู้เสียหายบ้าง  ในเมื่อถ้าคนซื้อไม่รอบคอบ ไม่ได้ดูราคาสินค้าจริงในร้านแล้วดึงไป ตกเป็นผู้เสียหายจากไอ้ตัวเศษส่วนราคาสินค้าจริง  กับคนขายตั้งผิดจากราคาจริงแล้วคนซื้อดึงไป คนขายก็ตกเป็นผู้เสียหาย  จะมีใครเอามาแจ้งมั้ยว่า ผมตั้งป้ายขาย 4.1 ล้าน แต่ของในร้านดันขาย 4.1 แสน  ราคาที่ประกาศโฆษณาไม่ตรงกับราคาสินค้าที่ขายจริง ถึงราคาไม่โอเวอร์เกินจริง แต่มันก็บรรทัดฐานเดียวกันคือมันไม่ตรง คุณก็ติดคุกสิครับมาดึงของผมไป  เพราะคุณก็เห็นๆว่าป้ายผมตั้งขาย 4.1 เอม คุณบอกว่า 4.1 เอมจากป้ายที่โฆษณามันคือราคาระบุแน่นอน แสดงว่าคุณก็รู้ว่าผมขายหลักล้านขึ้น  แต่ผมตั้งผิดเพราะดูไม่ดี ไปตั้งตัวสินค้าในร้าน 4.1 แสน คุณก็รู้ๆว่าไม่ตรงยังดึงไปอีก เจตนาไม่ดี  ผมแจ้งจับมั่งน๊ะ   เพราะมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่ผมตั้งราคาจริงโดยไม่ดูให้ดี กับ คุณมาซื้อของไปโดยไม่ดูให้ดี  เมื่อพลาดมันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ ผมเสียหายจากการตั้งไม่ดี คุณเสียหายจาการดูไม่ดี สิ่งแลกเปลี่ยนมันอยู่ที่ของกันและกัน มันเอาไปจากกันไม่ได้ถ้าไม่ยินยอม  ไม่ใช่การข่มขู่บังคับ ฉะนั้นต้องดูให้ดี

ร้านที่คุณตั้ง มันเข้าประเด็นนี้นะครับมันเป็นการขายเกินราคา กรณีเดียวกัน 
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า ตั้งราคาไว้แล้วขายจริงต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
คุณอย่าลืมนะครับว่ากฎนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นประเด็นการดึงสินค้าของลูกค้า ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ครับ
ในชีวิตจริง ถ้าคนขาย ขายถูกกว่าฉลากที่ตั้งไว้ มีความผิดไหมครับ
ผมจะบอกไว้อย่างนะครับ
ที่คุณยกเรื่องการโฆษนามาอ้าง อยากจะบอกว่า ถ้าในชีวิตจริง การระบุแบบนี้ คือการระบุราคาที่ฉลากของสินค้า
เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่าใบประกัน 2.3M คุณก็ต้องขายสองล้านสามแสนบิลล่าถ้วน
ถ้าขายเกินกว่าราคาที่ระบุไว้ ก็มีความผิด ฟ้องร้องได้ครับ

[/b]

มันไม่ใช่ป้ายฉลากราคา ที่ติดตามสินค้า แต่มันคือป้ายประกาศราคาเพื่อดึงดูดคนมาดูสินค้า

ส่วนจะตัดสินใจซื้อไม่ซื้อ ก็เรื่องของคนซื้อ มันไม่ใช่สลากติดขวด มันคือป้ายประกาศราคาเห้ย...

ผมถามคุณนะครับ ตรงป้ายหน้าร้านทำไรได้บ้าง ?
1. ชื่อร้าน
2. โฆษนาชวนเชื่อ
3. ระบุราคา
อันนี้ก็เห็นๆอยู่นะครับ ว่าระบุราคาขาย เพราะมีการบอกว่า ของชิ้นนี้ ราคาเท่านี้

ไอ่ที่คุณพูดมามันก็ตรงประเด็นแล้วนี่ครับ โฆษณาชวนเชื่อ

ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า จะโฆษณายังไงให้ลูกค้าเค้าตัดสินใจมาซื้อของๆเรา โดยไม่ได้หลอกลวง

ความจริงประเด็นนี้น่ะมันมีทั่วไปในสังคมชีวิตจริงครับ มันไม่ผิดกฏหมาย แต่มันผิดจริยธรรม

แต่จริยธรรมมันไม่ได้บัญญัติไว้เป็นกฏหมายไง มันเลยไม่ต้องโดนลงโทษอะไร

เอาล่ะมาเข้าประเด็นที่ถามต่อการที่คุณจะตั้งร้าน คุณต้องคิดแล้วล่ะว่าคุณจะทำยังไงให้ของคุณขายได้ในราคาที่คุณพอใจ

ตามหลักการตลาดของพวกพ่อค้า ส่วนใหญ่จะบอกความจริงกับผู้บริโภค แต่บอกไม่หมด

เข้าใจไม่ครับ เค้าไม่ได้ปิดบังคุณ แต่เค้าบอกคุณไม่หมด เพื่ออะไร? ก็เพื่อให้คุณเข้ามาสนใจในสินค้าของเค้าไงครับ

เคยมั้ยครับ เข้าห้างไปคุณไปเจอพนักงานขาย คุณอยากได้ทีวีราคาถูกที่ติดป้าย Sale ไว้

แต่ไอ้พนักงานขายมันชอบขยั้นขะยอให้คุณมาซื้อของที่แพงกว่า ผมถามหน่อยถ้าคุณไม่เห็นป้ายราคา Sale ไว้น่ะ

คุณจะเข้าไปดูสินค้ามันมั้ย ฉันใดฉันนั้นครับ การตั้งป้ายราคาโฆษณาชวนเชื่อที่คุณถาม มันก็บ่งบอกคุณลักษณะของมันไว้อยู่แล้ว

ลองเปิดใจให้กว้างครับ อย่าอคติเพียงเพราะว่ากระทู้ที่คุณแจ้ง มันดันมาโดนเปลี่ยนเรื่องการลงโทษ

คุณเองก็บอกเสมอนิครับ ว่าในเกมส์คุณไม่ซีเรียสอะไร แล้วเรื่องแค่นี้มันจะทำให้สังคมในเกมส์ในอุดมคติของคุณมันน่าเบื่อเชียวหรือ

ลองไปถามคนที่คุณไม่รู้จักซัก 100 คนนะครับ แล้วเอากฎเกมให้อ่าน
แล้วถามว่ากรณีนี้ผิดหรือเปล่า
กรณีนี้มันไม่ใช่การตั้งโฆษนาชวนเชื่อครับ มันคือการระบุราคาขาย
ถ้าตั้งโฆษนาชวนเชื่อมันจะเป็นแบบนี้ครับ เช่น ร้านนี้ถูกมากกกก อะไรแบบนี้
ผมไปถามคนในเกมมา 10 คน ทุกคนลงความเห็นว่าผิดครับ
ผมไม่ได้มีอคติ แต่ผมไม่ชอบเห็นการเอารัดเอาเปรียบครับ

[nutlovely]

กฏเกมส์ไม่มีตายตัวอยู่แล้วในเมื่อทีมงานประชุมได้ข้อสรุปว่า“เคสนี้ไม่ผิด”
ก็ใช้หลักการณ์ตามใจฉันจะอยู่หรือไป
เหมือนบางกลุ่มในเฟซ ใช้เงินในเกมส์เล่นพนันบอล
เจตนาเขาเราไม่รู้ เจตนาเรามันก็คือการพนัน ไม่มีกฏคุ้มครองในกลุ่ม
ถึงแม้เยาวชนมีสิทธิ์ติดการพนัน เราไม่ชอบก็ออก
บางกลุ่มซ้ำซากแล้ว เราก็กดออกได้อีก
แค่นี้เรื่องจบ พี่นิวก็ทำได้ เคยทำแล้วนี่คะ

กลุ่มไหนเหรอครับ มีเล่นการพนันบอลด้วย
อยากรู้

[Before]

ขาย 2.3 เอม   2.3 เอมไม่ใช่ราคาเต็มของสินค้า แล้วมันจะเป็นราคาที่แน่นอนได้ยังไละครับท่าน ในเมื่อ 2.3 เอมถูกย่อหลักล้านและหลักแสนเอามาจากราคาเต็ม  เพื่อติดประกาศโฆษณา  ราคาจริงเต็มจำนวนคือ 2.380.000   ก็ตราบใดที่หลักที่ย่อมาจากจำนวนเต็มจริงมันตรงกัน  มันไม่ใช่การหลอกลวง ย่อมาเพื่อโฆษณา  มันจะหลอกลวงต่อเมื่อคุณตั้ง  ขายราคา 2.3 เอม  แล้วสินค้าในร้านคุณเป็น 2.400.000  หลักล้านและหลักแสนคุณไม่ตรงกับที่คุณย่อไปโฆษณา  หรือถ้าเค้าบอกว่า ขายราคา 2.3 ล้านถ้วน  นั่นคือต้องเป็น 2.300.000 เท่านั้น จะมีเศษไม่ได้เพราะมันถ้วน  ถ้วนเป็นคำบังคับจำนวนเต็ม  เวลาคุณไปซื้อของได้ใบเสร็จมาเค้าลงว่าซื้อของไป 6.5 หมื่นบาท หรือ 65.000 บาทครับ  ถ้าคุณจะเอาว่า  2.3 เอมคือราคาที่ระบุแน่นอน ทำไมในใบเสร็จไม่ลงมาแค่ 6.5 หมื่นบาทละ สั้นๆ ห้วนๆ เพราะมันคือจำนวนระบุแน่นอน  จะ .000 มาทำไม  ถูกไหมครับ

ผมถามหน่อย คุณระบุเหรอครับว่าไม่ใช่ราคาเต็ม ? คุณระบุเหรอครับว่า เริ่มต้นที่ 2.3 M ? แต่คุณมายกมาพูดเอาทีหลัง
แล้วผมถามหน่อย ถ้าสมมุตคุณซื้อของกับผม ตกลงราคากันที่ 2.3 M จะเดลเงินให้ผม 2.38 M มั้ยครับ ?

แล้วถ้าจะให้ย่อว่า ขายราคา 2.38 เอมก็สามารถทำได้ แต่เค้าย่อมาแค่ 2 หลักคือล้านและแสน มันยังไม่มีกฏไปบังคับเค้าน๊ะครับว่าต้องย่อเศษมาด้วย  เพราะถ้าไปบังคับว่าต้องย่อเศษมาด้วย มันจะไม่เรียกว่าการย่อครับและการโฆษณาจะไม่สามารถย่อกันได้เลย ต้องลงเต็มหมด  ถ้าการใช้ตัวย่อที่ตรงกับหลักของราคาจริงที่ย่อมา  แล้วจะไปบังคับราคาจริงมีเศษส่วนต้องเอามาลงแสดงในโฆษณาทั้งหมดนั่นเท่ากับห้ามย่อกันเลยน๊ะครับ บังคับว่ามีเศษห้ามย่อ    ถ้าผมขายของ 2.389.999  ผมมีเนื่อที่ช่องหรือเนื้อที่โฆษณาไม่พอ  ผมจะย่อไปยังไงครับ  แล้วถ้าให้ลงเศษด้วยมันจะเรียกย่อยังไง   หรือถ้าผมมีพื้นที่พอ ผมก็ลง 2.389.999  ไปเลย  แล้วของในร้านก็ราคานี้จริง  แบบนี้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ใครจะกล้าออกกฏบ้างครับว่าถ้ามีเศษห้ามย่อ    ส่วนมากที่เค้าย่อมาโฆษณา เค้าจะเอาจากหลักหน้าสำคัญๆมา ไม่ว่าจะหน่วยเป็นอะไรก็ตาม สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน  เพราะเป็นหลักแม่บท หลักสำคัญของจำนวนเงิน  ส่วนรายละเอียดเต็มๆต้องมาดูที่ตัวสินค้าหรือราคาจริงว่ามีเศษส่วนเท่าไหร่

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎข้ออื่นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับกฎราคาตั้ง กับราคาขายจริงไม่เหมือนกัน
คุณลองพิจารณาถึงบรรทัดฐานที่ผมพูดเรื่องเดลเงินเมื่อกีีดูนะครับ
ถ้าคุณตั้งราคาเป็น 2.38 M แล้วขายแบบนั้นก็จบนี่ครับ แล้วจะตั้งเศษเพื่อ ?
หรือถ้าจะขาย 2.389.999  ก้อตั้งว่า ขายถูกกว่า 2.4M ก้อจบครับ

ตั้งว่าขาย 4.1 M แต่ขายจริงราคา 4,199,999 ถ้าคนที่ดูป้าย แล้วดึงโดยที่ไม่ดูราคาจริงๆ  คนซื้อก็เสียผลประโยชน์
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ครับ

   เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังครับ ผมก็เข้าใจประเด็นนี้  แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้หลอกและเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ  คุณเป็นคนควักจ่ายออกไปต้องดูให้ดีครับ  การเลือกซื้อสินค้าต้องดูถ้วนถี่  ชีวิตจริงคุณไปซื้อของอย่างรีบร้อน คุณไม่ได้เลือกได้ดูให้ดี คุณก็อาจจะได้ของไม่ดีมาก็ได้  และในทางกลับกัน  ถ้าผมตั้งร้านขาย 4.1 เอม  แต่ผมตั้งราคาของในร้านผิด ไปตั้ง 419.999 แสนแล้วคุณดึงไป  คนขายเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนซื้อของที่ไม่ได้ดูให้ดีหรอกครับ  แล้วจะมีใครรับเรื่องแจ้งของผู้ค้าว่าตกเป็นผู้เสียหายบ้าง  ในเมื่อถ้าคนซื้อไม่รอบคอบ ไม่ได้ดูราคาสินค้าจริงในร้านแล้วดึงไป ตกเป็นผู้เสียหายจากไอ้ตัวเศษส่วนราคาสินค้าจริง  กับคนขายตั้งผิดจากราคาจริงแล้วคนซื้อดึงไป คนขายก็ตกเป็นผู้เสียหาย  จะมีใครเอามาแจ้งมั้ยว่า ผมตั้งป้ายขาย 4.1 ล้าน แต่ของในร้านดันขาย 4.1 แสน  ราคาที่ประกาศโฆษณาไม่ตรงกับราคาสินค้าที่ขายจริง ถึงราคาไม่โอเวอร์เกินจริง แต่มันก็บรรทัดฐานเดียวกันคือมันไม่ตรง คุณก็ติดคุกสิครับมาดึงของผมไป  เพราะคุณก็เห็นๆว่าป้ายผมตั้งขาย 4.1 เอม คุณบอกว่า 4.1 เอมจากป้ายที่โฆษณามันคือราคาระบุแน่นอน แสดงว่าคุณก็รู้ว่าผมขายหลักล้านขึ้น  แต่ผมตั้งผิดเพราะดูไม่ดี ไปตั้งตัวสินค้าในร้าน 4.1 แสน คุณก็รู้ๆว่าไม่ตรงยังดึงไปอีก เจตนาไม่ดี  ผมแจ้งจับมั่งน๊ะ   เพราะมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่ผมตั้งราคาจริงโดยไม่ดูให้ดี กับ คุณมาซื้อของไปโดยไม่ดูให้ดี  เมื่อพลาดมันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ ผมเสียหายจากการตั้งไม่ดี คุณเสียหายจาการดูไม่ดี สิ่งแลกเปลี่ยนมันอยู่ที่ของกันและกัน มันเอาไปจากกันไม่ได้ถ้าไม่ยินยอม  ไม่ใช่การข่มขู่บังคับ ฉะนั้นต้องดูให้ดี

ร้านที่คุณตั้ง มันเข้าประเด็นนี้นะครับมันเป็นการขายเกินราคา กรณีเดียวกัน 
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า ตั้งราคาไว้แล้วขายจริงต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
คุณอย่าลืมนะครับว่ากฎนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นประเด็นการดึงสินค้าของลูกค้า ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ครับ
ในชีวิตจริง ถ้าคนขาย ขายถูกกว่าฉลากที่ตั้งไว้ มีความผิดไหมครับ
ผมจะบอกไว้อย่างนะครับ
ที่คุณยกเรื่องการโฆษนามาอ้าง อยากจะบอกว่า ถ้าในชีวิตจริง การระบุแบบนี้ คือการระบุราคาที่ฉลากของสินค้า
เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่าใบประกัน 2.3M คุณก็ต้องขายสองล้านสามแสนบิลล่าถ้วน
ถ้าขายเกินกว่าราคาที่ระบุไว้ ก็มีความผิด ฟ้องร้องได้ครับ

[/b]

มันไม่ใช่ป้ายฉลากราคา ที่ติดตามสินค้า แต่มันคือป้ายประกาศราคาเพื่อดึงดูดคนมาดูสินค้า

ส่วนจะตัดสินใจซื้อไม่ซื้อ ก็เรื่องของคนซื้อ มันไม่ใช่สลากติดขวด มันคือป้ายประกาศราคาเห้ย...

ผมถามคุณนะครับ ตรงป้ายหน้าร้านทำไรได้บ้าง ?
1. ชื่อร้าน
2. โฆษนาชวนเชื่อ
3. ระบุราคา
อันนี้ก็เห็นๆอยู่นะครับ ว่าระบุราคาขาย เพราะมีการบอกว่า ของชิ้นนี้ ราคาเท่านี้

ไอ่ที่คุณพูดมามันก็ตรงประเด็นแล้วนี่ครับ โฆษณาชวนเชื่อ

ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า จะโฆษณายังไงให้ลูกค้าเค้าตัดสินใจมาซื้อของๆเรา โดยไม่ได้หลอกลวง

ความจริงประเด็นนี้น่ะมันมีทั่วไปในสังคมชีวิตจริงครับ มันไม่ผิดกฏหมาย แต่มันผิดจริยธรรม

แต่จริยธรรมมันไม่ได้บัญญัติไว้เป็นกฏหมายไง มันเลยไม่ต้องโดนลงโทษอะไร

เอาล่ะมาเข้าประเด็นที่ถามต่อการที่คุณจะตั้งร้าน คุณต้องคิดแล้วล่ะว่าคุณจะทำยังไงให้ของคุณขายได้ในราคาที่คุณพอใจ

ตามหลักการตลาดของพวกพ่อค้า ส่วนใหญ่จะบอกความจริงกับผู้บริโภค แต่บอกไม่หมด

เข้าใจไม่ครับ เค้าไม่ได้ปิดบังคุณ แต่เค้าบอกคุณไม่หมด เพื่ออะไร? ก็เพื่อให้คุณเข้ามาสนใจในสินค้าของเค้าไงครับ

เคยมั้ยครับ เข้าห้างไปคุณไปเจอพนักงานขาย คุณอยากได้ทีวีราคาถูกที่ติดป้าย Sale ไว้

แต่ไอ้พนักงานขายมันชอบขยั้นขะยอให้คุณมาซื้อของที่แพงกว่า ผมถามหน่อยถ้าคุณไม่เห็นป้ายราคา Sale ไว้น่ะ

คุณจะเข้าไปดูสินค้ามันมั้ย ฉันใดฉันนั้นครับ การตั้งป้ายราคาโฆษณาชวนเชื่อที่คุณถาม มันก็บ่งบอกคุณลักษณะของมันไว้อยู่แล้ว

ลองเปิดใจให้กว้างครับ อย่าอคติเพียงเพราะว่ากระทู้ที่คุณแจ้ง มันดันมาโดนเปลี่ยนเรื่องการลงโทษ

คุณเองก็บอกเสมอนิครับ ว่าในเกมส์คุณไม่ซีเรียสอะไร แล้วเรื่องแค่นี้มันจะทำให้สังคมในเกมส์ในอุดมคติของคุณมันน่าเบื่อเชียวหรือ

ลองไปถามคนที่คุณไม่รู้จักซัก 100 คนนะครับ แล้วเอากฎเกมให้อ่าน
แล้วถามว่ากรณีนี้ผิดหรือเปล่า
กรณีนี้มันไม่ใช่การตั้งโฆษนาชวนเชื่อครับ มันคือการระบุราคาขาย
ถ้าตั้งโฆษนาชวนเชื่อมันจะเป็นแบบนี้ครับ เช่น ร้านนี้ถูกมากกกก อะไรแบบนี้
ผมไปถามคนในเกมมา 10 คน ทุกคนลงความเห็นว่าผิดครับ
ผมไม่ได้มีอคติ แต่ผมไม่ชอบเห็นการเอารัดเอาเปรียบครับ

ผมก็ถามมาเยอะครับ ใครๆก็บอกไม่ผิด ลองไปอ่านในบอร์ดเรื่องเล่านะครับ

นอกจากน้องฟรังแอนด์เดอะแกงค์แล้ว มีใครบ้างบอกว่าผิด

 

[first@lonely]

สรุปว่าทีมงานประชุมและพิจารณา ว่ากรณีแบบนี้ไม่ผิดแล้วนะคะ ตัดสินโทษครั้งแรกจากจีเอ็มคนเดียว
แต่ส่วนรวมที่ประชุมทีมงานสรุปไม่เข้าข่ายหลอกลวง เคสนี้น่าจะจบปัญหาได้แล้วล่ะค่ะ จบป่ะ?

[DarkEagle]

ขาย 2.3 เอม   2.3 เอมไม่ใช่ราคาเต็มของสินค้า แล้วมันจะเป็นราคาที่แน่นอนได้ยังไละครับท่าน ในเมื่อ 2.3 เอมถูกย่อหลักล้านและหลักแสนเอามาจากราคาเต็ม  เพื่อติดประกาศโฆษณา  ราคาจริงเต็มจำนวนคือ 2.380.000   ก็ตราบใดที่หลักที่ย่อมาจากจำนวนเต็มจริงมันตรงกัน  มันไม่ใช่การหลอกลวง ย่อมาเพื่อโฆษณา  มันจะหลอกลวงต่อเมื่อคุณตั้ง  ขายราคา 2.3 เอม  แล้วสินค้าในร้านคุณเป็น 2.400.000  หลักล้านและหลักแสนคุณไม่ตรงกับที่คุณย่อไปโฆษณา  หรือถ้าเค้าบอกว่า ขายราคา 2.3 ล้านถ้วน  นั่นคือต้องเป็น 2.300.000 เท่านั้น จะมีเศษไม่ได้เพราะมันถ้วน  ถ้วนเป็นคำบังคับจำนวนเต็ม  เวลาคุณไปซื้อของได้ใบเสร็จมาเค้าลงว่าซื้อของไป 6.5 หมื่นบาท หรือ 65.000 บาทครับ  ถ้าคุณจะเอาว่า  2.3 เอมคือราคาที่ระบุแน่นอน ทำไมในใบเสร็จไม่ลงมาแค่ 6.5 หมื่นบาทละ สั้นๆ ห้วนๆ เพราะมันคือจำนวนระบุแน่นอน  จะ .000 มาทำไม  ถูกไหมครับ

ผมถามหน่อย คุณระบุเหรอครับว่าไม่ใช่ราคาเต็ม ? คุณระบุเหรอครับว่า เริ่มต้นที่ 2.3 M ? แต่คุณมายกมาพูดเอาทีหลัง
แล้วผมถามหน่อย ถ้าสมมุตคุณซื้อของกับผม ตกลงราคากันที่ 2.3 M จะเดลเงินให้ผม 2.38 M มั้ยครับ ? <<< อันนี้คุณไปอ่านอันเต็มที่ผมตอบใหม่  ผมตอบอันนี้ไม่เกี่ยวกับอันที่ผมยกตัวอย่างมาก่อนนู้น ไม่เกี่ยวกับ เริ่มต้นที่   ผมยกที่คุณตอบมา ก๊อปมาวางตัวม่วงๆ แล้วอธิบาย ให้คุณฟัง  ลองค่อยอ่านดูใหม่ครับ ยาวหน่อย  ผมพิมเองอ่านเองก็เวียนหัวเหมือนกัน 

แล้วถ้าจะให้ย่อว่า ขายราคา 2.38 เอมก็สามารถทำได้ แต่เค้าย่อมาแค่ 2 หลักคือล้านและแสน มันยังไม่มีกฏไปบังคับเค้าน๊ะครับว่าต้องย่อเศษมาด้วย  เพราะถ้าไปบังคับว่าต้องย่อเศษมาด้วย มันจะไม่เรียกว่าการย่อครับและการโฆษณาจะไม่สามารถย่อกันได้เลย ต้องลงเต็มหมด  ถ้าการใช้ตัวย่อที่ตรงกับหลักของราคาจริงที่ย่อมา  แล้วจะไปบังคับราคาจริงมีเศษส่วนต้องเอามาลงแสดงในโฆษณาทั้งหมดนั่นเท่ากับห้ามย่อกันเลยน๊ะครับ บังคับว่ามีเศษห้ามย่อ    ถ้าผมขายของ 2.389.999  ผมมีเนื่อที่ช่องหรือเนื้อที่โฆษณาไม่พอ  ผมจะย่อไปยังไงครับ  แล้วถ้าให้ลงเศษด้วยมันจะเรียกย่อยังไง   หรือถ้าผมมีพื้นที่พอ ผมก็ลง 2.389.999  ไปเลย  แล้วของในร้านก็ราคานี้จริง  แบบนี้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ใครจะกล้าออกกฏบ้างครับว่าถ้ามีเศษห้ามย่อ    ส่วนมากที่เค้าย่อมาโฆษณา เค้าจะเอาจากหลักหน้าสำคัญๆมา ไม่ว่าจะหน่วยเป็นอะไรก็ตาม สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน  เพราะเป็นหลักแม่บท หลักสำคัญของจำนวนเงิน  ส่วนรายละเอียดเต็มๆต้องมาดูที่ตัวสินค้าหรือราคาจริงว่ามีเศษส่วนเท่าไหร่

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎข้ออื่นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับกฎราคาตั้ง กับราคาขายจริงไม่เหมือนกัน <<< กฏควบคุมราคาของกับขายจริง เค้าดูที่ราคาที่ระบุไว้ที่ตัวสินค้า กับ ตอนที่เค้าเรียกเก็บเงินคุณครับ ว่าตรงกันหรือไม่ เค้าดูจำนวนราคาสินค้าแบบเต็มๆ ไม่ได้ดู หลักสองหลักจากทั้งหมดแล้วตัดสินครับ
คุณลองพิจารณาถึงบรรทัดฐานที่ผมพูดเรื่องเดลเงินเมื่อกีีดูนะครับ
ถ้าคุณตั้งราคาเป็น 2.38 M แล้วขายแบบนั้นก็จบนี่ครับ แล้วจะตั้งเศษเพื่อ ?
หรือถ้าจะขาย 2.389.999  ก้อตั้งว่า ขายถูกกว่า 2.4M ก้อจบครับ <<< เค้าเป็นผู้ขาย เขามีสิทธิ์จะตั้งราคาน๊ะครับ คุณจะไปบังคับคนขายให้ตั้งราคาของเหรอครับ 

ตั้งว่าขาย 4.1 M แต่ขายจริงราคา 4,199,999 ถ้าคนที่ดูป้าย แล้วดึงโดยที่ไม่ดูราคาจริงๆ  คนซื้อก็เสียผลประโยชน์
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ครับ

   เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังครับ ผมก็เข้าใจประเด็นนี้  แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้หลอกและเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ  คุณเป็นคนควักจ่ายออกไปต้องดูให้ดีครับ  การเลือกซื้อสินค้าต้องดูถ้วนถี่  ชีวิตจริงคุณไปซื้อของอย่างรีบร้อน คุณไม่ได้เลือกได้ดูให้ดี คุณก็อาจจะได้ของไม่ดีมาก็ได้  และในทางกลับกัน  ถ้าผมตั้งร้านขาย 4.1 เอม  แต่ผมตั้งราคาของในร้านผิด ไปตั้ง 419.999 แสนแล้วคุณดึงไป  คนขายเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนซื้อของที่ไม่ได้ดูให้ดีหรอกครับ  แล้วจะมีใครรับเรื่องแจ้งของผู้ค้าว่าตกเป็นผู้เสียหายบ้าง  ในเมื่อถ้าคนซื้อไม่รอบคอบ ไม่ได้ดูราคาสินค้าจริงในร้านแล้วดึงไป ตกเป็นผู้เสียหายจากไอ้ตัวเศษส่วนราคาสินค้าจริง  กับคนขายตั้งผิดจากราคาจริงแล้วคนซื้อดึงไป คนขายก็ตกเป็นผู้เสียหาย  จะมีใครเอามาแจ้งมั้ยว่า ผมตั้งป้ายขาย 4.1 ล้าน แต่ของในร้านดันขาย 4.1 แสน  ราคาที่ประกาศโฆษณาไม่ตรงกับราคาสินค้าที่ขายจริง ถึงราคาไม่โอเวอร์เกินจริง แต่มันก็บรรทัดฐานเดียวกันคือมันไม่ตรง คุณก็ติดคุกสิครับมาดึงของผมไป  เพราะคุณก็เห็นๆว่าป้ายผมตั้งขาย 4.1 เอม คุณบอกว่า 4.1 เอมจากป้ายที่โฆษณามันคือราคาระบุแน่นอน แสดงว่าคุณก็รู้ว่าผมขายหลักล้านขึ้น  แต่ผมตั้งผิดเพราะดูไม่ดี ไปตั้งตัวสินค้าในร้าน 4.1 แสน คุณก็รู้ๆว่าไม่ตรงยังดึงไปอีก เจตนาไม่ดี  ผมแจ้งจับมั่งน๊ะ   เพราะมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่ผมตั้งราคาจริงโดยไม่ดูให้ดี กับ คุณมาซื้อของไปโดยไม่ดูให้ดี  เมื่อพลาดมันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ ผมเสียหายจากการตั้งไม่ดี คุณเสียหายจาการดูไม่ดี สิ่งแลกเปลี่ยนมันอยู่ที่ของกันและกัน มันเอาไปจากกันไม่ได้ถ้าไม่ยินยอม  ไม่ใช่การข่มขู่บังคับ ฉะนั้นต้องดูให้ดี

ร้านที่คุณตั้ง มันเข้าประเด็นนี้นะครับมันเป็นการขายเกินราคา กรณีเดียวกัน 
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า ตั้งราคาไว้แล้วขายจริงต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
คุณอย่าลืมนะครับว่ากฎนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นประเด็นการดึงสินค้าของลูกค้า ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ครับ
ในชีวิตจริง ถ้าคนขาย ขายถูกกว่าฉลากที่ตั้งไว้ มีความผิดไหมครับ <<<
ผมจะบอกไว้อย่างนะครับ
ที่คุณยกเรื่องการโฆษนามาอ้าง อยากจะบอกว่า ถ้าในชีวิตจริง การระบุแบบนี้ คือการระบุราคาที่ฉลากของสินค้า <<< ก็ถูก มันคือการระบุราคาของสินค้า แต่คร่าวๆ คือเอาราคาจริงจากตัวสินค้ามาโฆษณา แต่ย่อมา
เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่าใบประกัน 2.3M คุณก็ต้องขายสองล้านสามแสนบิลล่าถ้วน <<< อันนี้คุณคิดเองไง คุณคิดเอาว่า 2.3m เป็นราคาจริงที่สุทธิ มันต้องเป็น 2.300.000 ถ้วนๆ เป็นเศษไม่ได้  เอางี้ คุณลองหาหลักยืนยันมาให้ผมดูหน่อยว่ามีการการันตีมั้ยว่า กรณีการใช้ย่อ 2.3 M คือ 2.3 ล้านนี่ละ จะต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น ถ้ามีเศษไม่สามารถใช่ย่อแบบนี้ได้  ถ้าหามาให้ดูได้ ผมยอม เพราะเท่าที่ผมพอทราบ มันใช้เป็นแค่การเรียกหน่วยคร่าวๆเท่านั้นน๊ะที่เค้าใช้เรียกกันตามหลักสากล ไม่ได้ถือเป็นจำนวนสุทธิน๊ะ ไม่งั้นก็ลองฝากเงินแบงค์ เขียนใบฝากว่า ฝาก 2.5 M  แล้วเขียนตัวเขียนว่า สองล้านห้าแสนบาทถ้วน พนักงานมันจะไล่ให้มาเขียนใหม่มั้ย ลองดู  หลักที่ใช้เรียกกับหลักที่ใช้แสดงจริงมันละเอียดไม่เหมือนกันน๊ะ แต่ฝากเงินแบงค์คุณจะอ้างหลักสากลแบบที่คุณเข้าใจไม่ได้น๊ะ เค้าให้ลงเต็มๆ ตัวนั้นมันแค่การใช้เรียกให้เข้าใจจำนวนคร่าวๆง่ายขึ้นหรือเขียนให้กระทัดรัด  แต่เมื่อมีธุรกรรมจริงๆ คุณต้องเต็มเม็ดเต็มหน่วย เศษส่วนเท่าไหร่เค้าต้องการรู้     แต่ถ้าเป็นการค้าขาย การโฆษณา คุณเอามาย่อได้น๊ะ เค้าไม่ได้บังคับว่าห้ามย่อ ต้องมาจัดเต็มมาเท่านั้น หรือว่าถ้ามีการบังคับว่าห้ามย่อ หรือ มีเศษส่วนห้ามย่อมาขึ้นที่ป้ายโฆษณาเชิญชวน ผมก็ขอดูหน่อย เพราะผมยังไม่รู้ว่ามีแล้ว    ถ้าเป็น  2.300.500 ล้าน ถ้าคุยย่อให้เข้าใจจำนวนสั้นๆก็ยังคงเป็น 2.3 ล้าน  หรือว่าไม่สามารถใช้ย่อแบบนี้ได้ในทางการค้า    
ถ้าขายเกินกว่าราคาที่ระบุไว้ ก็มีความผิด ฟ้องร้องได้ครับ <<<  ผมไม่ได้ยกโฆษณามาอ้างแบบแถน๊ะครับ  มันเป็นแบบนั้นจริง  ป้ายหน้าร้าน ป้ายโฆษณาเค้าเอาไว้โฆษณาเชิญชวน ถ้าลงราคาเต็มๆก็ไม่มีอะไร  ถ้าลงมาไม่เต็ม ยกย่อมา คุณต้องไปดูราคาจริงที่ตัวสินค้า  และเวลาเค้าจะเอาผิดเรื่องขายเกินราคา  เค้าดูราคาจริงของมันครับ และตอนคุณขายเรียกเก็บเงิน ตรงกับที่ระบุไว้ที่ตัวสินค้าหรือไม่  นี่คือขายเกินราคา   และเรื่องลงราคาที่ป้ายโฆษณาหลอกลวงเกินจริงมันก็อีกเรื่องนึง  คนละเรื่องกัน  คูณกำลังเหมาว่า 2.3 เอมที่ยกย่อมาจากจำนวนจริงมาที่ป้ายประกาศมันคือต้องเป็น 2.300.00 ล้านถ้วนๆเท่านั้น เป็นอื่นหรือมีเศษส่วนไปไม่ได้ และเข้าข่ายหลอกลวง  ก็ลองไปฟ้องดูครับ  เวลาคุณไปซื้ออะไรเห็นราคาจากป้ายโฆษณาแล้วคุณเข้าไปติดต่อซื้อ คุณหยิบเลยแล้วบอกคิดเงิน  ถ้าเกิดเค้า + vat มาแล้วเกินจากราคาที่ระบุไว้ในป้ายหน้าร้าน  คุณเรียกตำรวจจับมันเลยครับ มันแจ้งราคาไม่ตรงกับใบเสร็จที่คุณซื้อ  คุณถือราคาจากป้ายเป็นหลักไม่สนใจราคาเต็มจริงของสินค้า ไม่ต้องไปหาที่ไหน เอาตามห้างดังๆก่อนเลย มีเยอะมากเคสนี้  สินค้าบางตัวก็ยังไม่รวม vat และ vat จะมาเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวไม่ใช่ประเด็น ประเด็นของคุณคือ ราคาต้องตรงเป๊ะจากป้าย  เอาจำนวนจากป้ายถือเป็นสิ้นสุด ต้องไม่มีเศษส่วนหรือค่าใช้จ่ายใดเพิ่มอีก ต้องเป็นราคานั้นเท่านั้น  ผมว่าคนจะติดคุกเยอะน๊ะครับถ้าไปทำงั้น

[Before]

ขาย 2.3 เอม   2.3 เอมไม่ใช่ราคาเต็มของสินค้า แล้วมันจะเป็นราคาที่แน่นอนได้ยังไละครับท่าน ในเมื่อ 2.3 เอมถูกย่อหลักล้านและหลักแสนเอามาจากราคาเต็ม  เพื่อติดประกาศโฆษณา  ราคาจริงเต็มจำนวนคือ 2.380.000   ก็ตราบใดที่หลักที่ย่อมาจากจำนวนเต็มจริงมันตรงกัน  มันไม่ใช่การหลอกลวง ย่อมาเพื่อโฆษณา  มันจะหลอกลวงต่อเมื่อคุณตั้ง  ขายราคา 2.3 เอม  แล้วสินค้าในร้านคุณเป็น 2.400.000  หลักล้านและหลักแสนคุณไม่ตรงกับที่คุณย่อไปโฆษณา  หรือถ้าเค้าบอกว่า ขายราคา 2.3 ล้านถ้วน  นั่นคือต้องเป็น 2.300.000 เท่านั้น จะมีเศษไม่ได้เพราะมันถ้วน  ถ้วนเป็นคำบังคับจำนวนเต็ม  เวลาคุณไปซื้อของได้ใบเสร็จมาเค้าลงว่าซื้อของไป 6.5 หมื่นบาท หรือ 65.000 บาทครับ  ถ้าคุณจะเอาว่า  2.3 เอมคือราคาที่ระบุแน่นอน ทำไมในใบเสร็จไม่ลงมาแค่ 6.5 หมื่นบาทละ สั้นๆ ห้วนๆ เพราะมันคือจำนวนระบุแน่นอน  จะ .000 มาทำไม  ถูกไหมครับ

ผมถามหน่อย คุณระบุเหรอครับว่าไม่ใช่ราคาเต็ม ? คุณระบุเหรอครับว่า เริ่มต้นที่ 2.3 M ? แต่คุณมายกมาพูดเอาทีหลัง
แล้วผมถามหน่อย ถ้าสมมุตคุณซื้อของกับผม ตกลงราคากันที่ 2.3 M จะเดลเงินให้ผม 2.38 M มั้ยครับ ? <<< อันนี้คุณไปอ่านอันเต็มที่ผมตอบใหม่  ผมตอบอันนี้ไม่เกี่ยวกับอันที่ผมยกตัวอย่างมาก่อนนู้น ไม่เกี่ยวกับ เริ่มต้นที่   ผมยกที่คุณตอบมา ก๊อปมาวางตัวม่วงๆ แล้วอธิบาย ให้คุณฟัง  ลองค่อยอ่านดูใหม่ครับ ยาวหน่อย  ผมพิมเองอ่านเองก็เวียนหัวเหมือนกัน 

แล้วถ้าจะให้ย่อว่า ขายราคา 2.38 เอมก็สามารถทำได้ แต่เค้าย่อมาแค่ 2 หลักคือล้านและแสน มันยังไม่มีกฏไปบังคับเค้าน๊ะครับว่าต้องย่อเศษมาด้วย  เพราะถ้าไปบังคับว่าต้องย่อเศษมาด้วย มันจะไม่เรียกว่าการย่อครับและการโฆษณาจะไม่สามารถย่อกันได้เลย ต้องลงเต็มหมด  ถ้าการใช้ตัวย่อที่ตรงกับหลักของราคาจริงที่ย่อมา  แล้วจะไปบังคับราคาจริงมีเศษส่วนต้องเอามาลงแสดงในโฆษณาทั้งหมดนั่นเท่ากับห้ามย่อกันเลยน๊ะครับ บังคับว่ามีเศษห้ามย่อ    ถ้าผมขายของ 2.389.999  ผมมีเนื่อที่ช่องหรือเนื้อที่โฆษณาไม่พอ  ผมจะย่อไปยังไงครับ  แล้วถ้าให้ลงเศษด้วยมันจะเรียกย่อยังไง   หรือถ้าผมมีพื้นที่พอ ผมก็ลง 2.389.999  ไปเลย  แล้วของในร้านก็ราคานี้จริง  แบบนี้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ใครจะกล้าออกกฏบ้างครับว่าถ้ามีเศษห้ามย่อ    ส่วนมากที่เค้าย่อมาโฆษณา เค้าจะเอาจากหลักหน้าสำคัญๆมา ไม่ว่าจะหน่วยเป็นอะไรก็ตาม สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน  เพราะเป็นหลักแม่บท หลักสำคัญของจำนวนเงิน  ส่วนรายละเอียดเต็มๆต้องมาดูที่ตัวสินค้าหรือราคาจริงว่ามีเศษส่วนเท่าไหร่

อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎข้ออื่นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับกฎราคาตั้ง กับราคาขายจริงไม่เหมือนกัน <<< กฏควบคุมราคาของกับขายจริง เค้าดูที่ราคาที่ระบุไว้ที่ตัวสินค้า กับ ตอนที่เค้าเรียกเก็บเงินคุณครับ ว่าตรงกันหรือไม่ เค้าดูจำนวนราคาสินค้าแบบเต็มๆ ไม่ได้ดู หลักสองหลักจากทั้งหมดแล้วตัดสินครับ
คุณลองพิจารณาถึงบรรทัดฐานที่ผมพูดเรื่องเดลเงินเมื่อกีีดูนะครับ
ถ้าคุณตั้งราคาเป็น 2.38 M แล้วขายแบบนั้นก็จบนี่ครับ แล้วจะตั้งเศษเพื่อ ?
หรือถ้าจะขาย 2.389.999  ก้อตั้งว่า ขายถูกกว่า 2.4M ก้อจบครับ <<< เค้าเป็นผู้ขาย เขามีสิทธิ์จะตั้งราคาน๊ะครับ คุณจะไปบังคับคนขายให้ตั้งราคาของเหรอครับ 

ตั้งว่าขาย 4.1 M แต่ขายจริงราคา 4,199,999 ถ้าคนที่ดูป้าย แล้วดึงโดยที่ไม่ดูราคาจริงๆ  คนซื้อก็เสียผลประโยชน์
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ครับ

   เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังครับ ผมก็เข้าใจประเด็นนี้  แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้หลอกและเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ  คุณเป็นคนควักจ่ายออกไปต้องดูให้ดีครับ  การเลือกซื้อสินค้าต้องดูถ้วนถี่  ชีวิตจริงคุณไปซื้อของอย่างรีบร้อน คุณไม่ได้เลือกได้ดูให้ดี คุณก็อาจจะได้ของไม่ดีมาก็ได้  และในทางกลับกัน  ถ้าผมตั้งร้านขาย 4.1 เอม  แต่ผมตั้งราคาของในร้านผิด ไปตั้ง 419.999 แสนแล้วคุณดึงไป  คนขายเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนซื้อของที่ไม่ได้ดูให้ดีหรอกครับ  แล้วจะมีใครรับเรื่องแจ้งของผู้ค้าว่าตกเป็นผู้เสียหายบ้าง  ในเมื่อถ้าคนซื้อไม่รอบคอบ ไม่ได้ดูราคาสินค้าจริงในร้านแล้วดึงไป ตกเป็นผู้เสียหายจากไอ้ตัวเศษส่วนราคาสินค้าจริง  กับคนขายตั้งผิดจากราคาจริงแล้วคนซื้อดึงไป คนขายก็ตกเป็นผู้เสียหาย  จะมีใครเอามาแจ้งมั้ยว่า ผมตั้งป้ายขาย 4.1 ล้าน แต่ของในร้านดันขาย 4.1 แสน  ราคาที่ประกาศโฆษณาไม่ตรงกับราคาสินค้าที่ขายจริง ถึงราคาไม่โอเวอร์เกินจริง แต่มันก็บรรทัดฐานเดียวกันคือมันไม่ตรง คุณก็ติดคุกสิครับมาดึงของผมไป  เพราะคุณก็เห็นๆว่าป้ายผมตั้งขาย 4.1 เอม คุณบอกว่า 4.1 เอมจากป้ายที่โฆษณามันคือราคาระบุแน่นอน แสดงว่าคุณก็รู้ว่าผมขายหลักล้านขึ้น  แต่ผมตั้งผิดเพราะดูไม่ดี ไปตั้งตัวสินค้าในร้าน 4.1 แสน คุณก็รู้ๆว่าไม่ตรงยังดึงไปอีก เจตนาไม่ดี  ผมแจ้งจับมั่งน๊ะ   เพราะมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่ผมตั้งราคาจริงโดยไม่ดูให้ดี กับ คุณมาซื้อของไปโดยไม่ดูให้ดี  เมื่อพลาดมันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ ผมเสียหายจากการตั้งไม่ดี คุณเสียหายจาการดูไม่ดี สิ่งแลกเปลี่ยนมันอยู่ที่ของกันและกัน มันเอาไปจากกันไม่ได้ถ้าไม่ยินยอม  ไม่ใช่การข่มขู่บังคับ ฉะนั้นต้องดูให้ดี

ร้านที่คุณตั้ง มันเข้าประเด็นนี้นะครับมันเป็นการขายเกินราคา กรณีเดียวกัน 
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า ตั้งราคาไว้แล้วขายจริงต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
คุณอย่าลืมนะครับว่ากฎนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นประเด็นการดึงสินค้าของลูกค้า ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ครับ
ในชีวิตจริง ถ้าคนขาย ขายถูกกว่าฉลากที่ตั้งไว้ มีความผิดไหมครับ <<<
ผมจะบอกไว้อย่างนะครับ
ที่คุณยกเรื่องการโฆษนามาอ้าง อยากจะบอกว่า ถ้าในชีวิตจริง การระบุแบบนี้ คือการระบุราคาที่ฉลากของสินค้า <<< ก็ถูก มันคือการระบุราคาของสินค้า แต่คร่าวๆ คือเอาราคาจริงจากตัวสินค้ามาโฆษณา แต่ย่อมา
เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่าใบประกัน 2.3M คุณก็ต้องขายสองล้านสามแสนบิลล่าถ้วน <<< อันนี้คุณคิดเองไง คุณคิดเอาว่า 2.3m เป็นราคาจริงที่สุทธิ มันต้องเป็น 2.300.000 ถ้วนๆ เป็นเศษไม่ได้  เอางี้ คุณลองหาหลักยืนยันมาให้ผมดูหน่อยว่ามีการการันตีมั้ยว่า กรณีการใช้ย่อ 2.3 M คือ 2.3 ล้านนี่ละ จะต้องเป็นจำนวนเต็มเท่านั้น ถ้ามีเศษไม่สามารถใช่ย่อแบบนี้ได้  ถ้าหามาให้ดูได้ ผมยอม เพราะเท่าที่ผมพอทราบ มันใช้เป็นแค่การเรียกหน่วยคร่าวๆเท่านั้นน๊ะที่เค้าใช้เรียกกันตามหลักสากล ไม่ได้ถือเป็นจำนวนสุทธิน๊ะ ไม่งั้นก็ลองฝากเงินแบงค์ เขียนใบฝากว่า ฝาก 2.5 M  แล้วเขียนตัวเขียนว่า สองล้านห้าแสนบาทถ้วน พนักงานมันจะไล่ให้มาเขียนใหม่มั้ย ลองดู  หลักที่ใช้เรียกกับหลักที่ใช้แสดงจริงมันละเอียดไม่เหมือนกันน๊ะ แต่ฝากเงินแบงค์คุณจะอ้างหลักสากลแบบที่คุณเข้าใจไม่ได้น๊ะ เค้าให้ลงเต็มๆ ตัวนั้นมันแค่การใช้เรียกให้เข้าใจจำนวนคร่าวๆง่ายขึ้นหรือเขียนให้กระทัดรัด  แต่เมื่อมีธุรกรรมจริงๆ คุณต้องเต็มเม็ดเต็มหน่วย เศษส่วนเท่าไหร่เค้าต้องการรู้     แต่ถ้าเป็นการค้าขาย การโฆษณา คุณเอามาย่อได้น๊ะ เค้าไม่ได้บังคับว่าห้ามย่อ ต้องมาจัดเต็มมาเท่านั้น หรือว่าถ้ามีการบังคับว่าห้ามย่อ หรือ มีเศษส่วนห้ามย่อมาขึ้นที่ป้ายโฆษณาเชิญชวน ผมก็ขอดูหน่อย เพราะผมยังไม่รู้ว่ามีแล้ว    ถ้าเป็น  2.300.500 ล้าน ถ้าคุยย่อให้เข้าใจจำนวนสั้นๆก็ยังคงเป็น 2.3 ล้าน  หรือว่าไม่สามารถใช้ย่อแบบนี้ได้ในทางการค้า    
ถ้าขายเกินกว่าราคาที่ระบุไว้ ก็มีความผิด ฟ้องร้องได้ครับ <<<  ผมไม่ได้ยกโฆษณามาอ้างแบบแถน๊ะครับ  มันเป็นแบบนั้นจริง  ป้ายหน้าร้าน ป้ายโฆษณาเค้าเอาไว้โฆษณาเชิญชวน ถ้าลงราคาเต็มๆก็ไม่มีอะไร  ถ้าลงมาไม่เต็ม ยกย่อมา คุณต้องไปดูราคาจริงที่ตัวสินค้า  และเวลาเค้าจะเอาผิดเรื่องขายเกินราคา  เค้าดูราคาจริงของมันครับ และตอนคุณขายเรียกเก็บเงิน ตรงกับที่ระบุไว้ที่ตัวสินค้าหรือไม่  นี่คือขายเกินราคา   และเรื่องลงราคาที่ป้ายโฆษณาหลอกลวงเกินจริงมันก็อีกเรื่องนึง  คนละเรื่องกัน  คูณกำลังเหมาว่า 2.3 เอมที่ยกย่อมาจากจำนวนจริงมาที่ป้ายประกาศมันคือต้องเป็น 2.300.00 ล้านถ้วนๆเท่านั้น เป็นอื่นหรือมีเศษส่วนไปไม่ได้ และเข้าข่ายหลอกลวง  ก็ลองไปฟ้องดูครับ  เวลาคุณไปซื้ออะไรเห็นราคาจากป้ายโฆษณาแล้วคุณเข้าไปติดต่อซื้อ คุณหยิบเลยแล้วบอกคิดเงิน  ถ้าเกิดเค้า + vat มาแล้วเกินจากราคาที่ระบุไว้ในป้ายหน้าร้าน  คุณเรียกตำรวจจับมันเลยครับ มันแจ้งราคาไม่ตรงกับใบเสร็จที่คุณซื้อ  คุณถือราคาจากป้ายเป็นหลักไม่สนใจราคาเต็มจริงของสินค้า ไม่ต้องไปหาที่ไหน เอาตามห้างดังๆก่อนเลย มีเยอะมากเคสนี้  สินค้าบางตัวก็ยังไม่รวม vat และ vat จะมาเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวไม่ใช่ประเด็น ประเด็นของคุณคือ ราคาต้องตรงเป๊ะจากป้าย  เอาจำนวนจากป้ายถือเป็นสิ้นสุด ต้องไม่มีเศษส่วนหรือค่าใช้จ่ายใดเพิ่มอีก ต้องเป็นราคานั้นเท่านั้น  ผมว่าคนจะติดคุกเยอะน๊ะครับถ้าไปทำงั้น

ไม่เมื่อยบ้างเหรอนาย 

[DarkEagle]

     ชักเมื่อยเหมือนกัน กำลังจะออกไปหาไรกินละครับ  เวลาพักผม  พักจนลืม  ทำงานเครียดๆเพลียๆก็เข้ามาคุยบอร์ดบ้าง  พอพิมพ์แล้วเพลินก็ไปเรื่อยเปื่อย  งานผมไม่ค่อยมีไรให้ทำ ให้นั่งยิ้มกะเดินดูสาวๆพอ   

ป.ล. ไปปั้นทหารกับวิซาดกับผมมั้ย จะลงบอมที่สวรรค์  จ้างเวล 20 เอม  เอาให้ได้เวล 80+  สนไหมๆ

[Saito Hajimae]

มันคงอะรอให้ลงโทดอะ

ไปอ่านใหม่นะ เขียนว่ายังไง ทำความเข้าใจด้วยครับ
ถ้าอยากให้ลงโทษจำเลยที่ว่าจริงๆ ก็ไปหาหลักฐานมานะครับ

ไอ้คนแจ้งมันไม่มีหลักฐาน แล้วยืนชี้อีกคนว่าผิด โง่ หรือ บ้า ?