ขาย 2.3 เอม 2.3 เอมไม่ใช่ราคาเต็มของสินค้า แล้วมันจะเป็นราคาที่แน่นอนได้ยังไละครับท่าน ในเมื่อ 2.3 เอมถูกย่อหลักล้านและหลักแสนเอามาจากราคาเต็ม เพื่อติดประกาศโฆษณา ราคาจริงเต็มจำนวนคือ 2.380.000 ก็ตราบใดที่หลักที่ย่อมาจากจำนวนเต็มจริงมันตรงกัน มันไม่ใช่การหลอกลวง ย่อมาเพื่อโฆษณา มันจะหลอกลวงต่อเมื่อคุณตั้ง ขายราคา 2.3 เอม แล้วสินค้าในร้านคุณเป็น 2.400.000 หลักล้านและหลักแสนคุณไม่ตรงกับที่คุณย่อไปโฆษณา หรือถ้าเค้าบอกว่า ขายราคา 2.3 ล้านถ้วน นั่นคือต้องเป็น 2.300.000 เท่านั้น จะมีเศษไม่ได้เพราะมันถ้วน ถ้วนเป็นคำบังคับจำนวนเต็ม เวลาคุณไปซื้อของได้ใบเสร็จมาเค้าลงว่าซื้อของไป 6.5 หมื่นบาท หรือ 65.000 บาทครับ ถ้าคุณจะเอาว่า 2.3 เอมคือราคาที่ระบุแน่นอน ทำไมในใบเสร็จไม่ลงมาแค่ 6.5 หมื่นบาทละ สั้นๆ ห้วนๆ เพราะมันคือจำนวนระบุแน่นอน จะ .000 มาทำไม ถูกไหมครับ
ผมถามหน่อย คุณระบุเหรอครับว่าไม่ใช่ราคาเต็ม ? คุณระบุเหรอครับว่า เริ่มต้นที่ 2.3 M ? แต่คุณมายกมาพูดเอาทีหลัง
แล้วผมถามหน่อย ถ้าสมมุตคุณซื้อของกับผม ตกลงราคากันที่ 2.3 M จะเดลเงินให้ผม 2.38 M มั้ยครับ ?
แล้วถ้าจะให้ย่อว่า ขายราคา 2.38 เอมก็สามารถทำได้ แต่เค้าย่อมาแค่ 2 หลักคือล้านและแสน มันยังไม่มีกฏไปบังคับเค้าน๊ะครับว่าต้องย่อเศษมาด้วย เพราะถ้าไปบังคับว่าต้องย่อเศษมาด้วย มันจะไม่เรียกว่าการย่อครับและการโฆษณาจะไม่สามารถย่อกันได้เลย ต้องลงเต็มหมด ถ้าการใช้ตัวย่อที่ตรงกับหลักของราคาจริงที่ย่อมา แล้วจะไปบังคับราคาจริงมีเศษส่วนต้องเอามาลงแสดงในโฆษณาทั้งหมดนั่นเท่ากับห้ามย่อกันเลยน๊ะครับ บังคับว่ามีเศษห้ามย่อ ถ้าผมขายของ 2.389.999 ผมมีเนื่อที่ช่องหรือเนื้อที่โฆษณาไม่พอ ผมจะย่อไปยังไงครับ แล้วถ้าให้ลงเศษด้วยมันจะเรียกย่อยังไง หรือถ้าผมมีพื้นที่พอ ผมก็ลง 2.389.999 ไปเลย แล้วของในร้านก็ราคานี้จริง แบบนี้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่ใครจะกล้าออกกฏบ้างครับว่าถ้ามีเศษห้ามย่อ ส่วนมากที่เค้าย่อมาโฆษณา เค้าจะเอาจากหลักหน้าสำคัญๆมา ไม่ว่าจะหน่วยเป็นอะไรก็ตาม สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน เพราะเป็นหลักแม่บท หลักสำคัญของจำนวนเงิน ส่วนรายละเอียดเต็มๆต้องมาดูที่ตัวสินค้าหรือราคาจริงว่ามีเศษส่วนเท่าไหร่
อันนี้ไม่เกี่ยวกับกฎข้ออื่นนะครับ แต่มันเกี่ยวกับกฎราคาตั้ง กับราคาขายจริงไม่เหมือนกัน
คุณลองพิจารณาถึงบรรทัดฐานที่ผมพูดเรื่องเดลเงินเมื่อกีีดูนะครับ
ถ้าคุณตั้งราคาเป็น 2.38 M แล้วขายแบบนั้นก็จบนี่ครับ แล้วจะตั้งเศษเพื่อ ?
หรือถ้าจะขาย 2.389.999 ก้อตั้งว่า ขายถูกกว่า 2.4M ก้อจบครับ
ตั้งว่าขาย 4.1 M แต่ขายจริงราคา 4,199,999 ถ้าคนที่ดูป้าย แล้วดึงโดยที่ไม่ดูราคาจริงๆ คนซื้อก็เสียผลประโยชน์
ผมคิดว่ามันไม่แฟร์ครับ
เรื่องแบบนี้ก็ต้องระวังครับ ผมก็เข้าใจประเด็นนี้ แต่ในเมื่อเค้าไม่ได้หลอกและเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ คุณเป็นคนควักจ่ายออกไปต้องดูให้ดีครับ การเลือกซื้อสินค้าต้องดูถ้วนถี่ ชีวิตจริงคุณไปซื้อของอย่างรีบร้อน คุณไม่ได้เลือกได้ดูให้ดี คุณก็อาจจะได้ของไม่ดีมาก็ได้ และในทางกลับกัน ถ้าผมตั้งร้านขาย 4.1 เอม แต่ผมตั้งราคาของในร้านผิด ไปตั้ง 419.999 แสนแล้วคุณดึงไป คนขายเองก็มีสภาพไม่ได้ต่างจากคนซื้อของที่ไม่ได้ดูให้ดีหรอกครับ แล้วจะมีใครรับเรื่องแจ้งของผู้ค้าว่าตกเป็นผู้เสียหายบ้าง ในเมื่อถ้าคนซื้อไม่รอบคอบ ไม่ได้ดูราคาสินค้าจริงในร้านแล้วดึงไป ตกเป็นผู้เสียหายจากไอ้ตัวเศษส่วนราคาสินค้าจริง กับคนขายตั้งผิดจากราคาจริงแล้วคนซื้อดึงไป คนขายก็ตกเป็นผู้เสียหาย จะมีใครเอามาแจ้งมั้ยว่า ผมตั้งป้ายขาย 4.1 ล้าน แต่ของในร้านดันขาย 4.1 แสน ราคาที่ประกาศโฆษณาไม่ตรงกับราคาสินค้าที่ขายจริง ถึงราคาไม่โอเวอร์เกินจริง แต่มันก็บรรทัดฐานเดียวกันคือมันไม่ตรง คุณก็ติดคุกสิครับมาดึงของผมไป เพราะคุณก็เห็นๆว่าป้ายผมตั้งขาย 4.1 เอม คุณบอกว่า 4.1 เอมจากป้ายที่โฆษณามันคือราคาระบุแน่นอน แสดงว่าคุณก็รู้ว่าผมขายหลักล้านขึ้น แต่ผมตั้งผิดเพราะดูไม่ดี ไปตั้งตัวสินค้าในร้าน 4.1 แสน คุณก็รู้ๆว่าไม่ตรงยังดึงไปอีก เจตนาไม่ดี ผมแจ้งจับมั่งน๊ะ เพราะมันจะต่างกันตรงไหนกับการที่ผมตั้งราคาจริงโดยไม่ดูให้ดี กับ คุณมาซื้อของไปโดยไม่ดูให้ดี เมื่อพลาดมันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันทั้งคู่แหละครับ ผมเสียหายจากการตั้งไม่ดี คุณเสียหายจาการดูไม่ดี สิ่งแลกเปลี่ยนมันอยู่ที่ของกันและกัน มันเอาไปจากกันไม่ได้ถ้าไม่ยินยอม ไม่ใช่การข่มขู่บังคับ ฉะนั้นต้องดูให้ดี
ร้านที่คุณตั้ง มันเข้าประเด็นนี้นะครับมันเป็นการขายเกินราคา กรณีเดียวกัน
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า ตั้งราคาไว้แล้วขายจริงต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้
คุณอย่าลืมนะครับว่ากฎนี้ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นประเด็นการดึงสินค้าของลูกค้า ไม่เกี่ยวกับกรณีนี้ครับ
ในชีวิตจริง ถ้าคนขาย ขายถูกกว่าฉลากที่ตั้งไว้ มีความผิดไหมครับ
ผมจะบอกไว้อย่างนะครับ
ที่คุณยกเรื่องการโฆษนามาอ้าง อยากจะบอกว่า ถ้าในชีวิตจริง การระบุแบบนี้ คือการระบุราคาที่ฉลากของสินค้า
เพราะคุณเป็นคนบอกเองว่าใบประกัน 2.3M คุณก็ต้องขายสองล้านสามแสนบิลล่าถ้วน
ถ้าขายเกินกว่าราคาที่ระบุไว้ ก็มีความผิด ฟ้องร้องได้ครับ