GAMEINDY กระดานสนทนา
www.gameindy.com

มหากาพย์ตำนานอสุรา (ภาคผู้ศรัทธารำพัน)

โพลล์

คุณคิดว่า ทักษะต่างๆ ของเครลิค/นัน จะเป็นอย่างไรต่อไป ?

ผลักดันปรับให้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน (ก่อม็อบประท้วงกันเลยมั้ย)
คงตัวสภาพเดิมๆ อย่างนี้แหละ (เป็นกลางโคตรๆ)
โดนฉุดลากให้กากกว่าเดิมอีกแน่ๆ (ก็ลูกเมียน้อยอ้ะ T^T)

~:•<แมวปีศาจ>•:~

  • โสด~ขั้นเทพ !!!
  • Asura Tester
  • Hero Member
  • **
    • กระทู้: 7,165
  • จีบได้ หาหม้ายจ้าว..!!!
    • Ith Continue
กาลครั้งหนึ่งโคตรนานมาแล้ว
ณ ดินแดนอันแสนไกล มีทิวเทือกเขาป่าไม้และทะเล
สิ่งมีชีวิตต่างๆ อยู่ร่วมกันโดยสันติ สงบสุข

แต่หลังจากเกิดปัญหาระหว่างเทพผู้สร้างและเทพผู้ทำลาย
ทำให้โลกแห่งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง เงาร้ายเริ่มปกคลุมไปทั่ว
เหล่าสิ่งมีชีวิตที่เคยสงบสุข เริ่มมีความดุร้ายแฝงในตัว
จนเหล่ามนุษย์ต้องจัดตั้งสมาคมขึ้น 3 สมาคม
เพื่อฝึกฝนวิชาหลากหลายแขนง ให้มีความแข็งแกร่ง
เอาไว้ปกป้องตนเองและบ้านเมือง

สมาคมเรนเจอร์ ตั้งอยู่ในเมืองเรดคลิฟ ติดแถบชายทะเล ฝึกฝนการใช้มีดและธนู
สมาคมไฟเตอร์ ตั้งอยู่กลางใจเมืองเซาท์เทิร์นฟอร์ท ชำนาญการใช้หอก ดาบ และขวาน
สมาคมแคสเตอร์ แบ่งที่ตั้งเป็น 2 แห่ง แคมป์นักเวทสอนการใช้เวทย์จากธรรมชาติ
และโบสถ์ประจำเมืองเซาท์เทิร์นฟอร์ท สอนการใช้เวทย์ศักดิ์สิทธิ์

เดิมทีแคสเตอร์สายฝักใฝ่ในธรรมเนี่ย แทบไม่เป็นที่ต้องการของสังคมซักเท่าไหร่
ไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครสนใจ ด้วยกลัวจะเป็นตัวถ่วง
แต่แคสเตอร์บางคนก็จำใจทำเป็นศรัทธา เนื่องจากว่า มีทักษะมหาเมพอยู่หนึ่งอัน
"บัพฟื้นฟูเวทย์" (ถ้าจำชื่อไม่ผิดนะ)
ซึ่งด้วยผลของทักษะนี้ ทำให้เหล่่านักเวทย์ยอมที่จะเสียพลังโจมตีเวทย์ไปเล็กน้อย
เพื่อแลกกับการทำให้สามารถเดินทางตามล่ามอนสเตอร์ได้เป็นเวลานานขึ้น

และด้วยเหตุนี้ เทพผู้สร้างจึงมีบัญชาลงมาว่า
"ผู้ศรัทธาในข้า นับวันยิ่งจะน้อยลงเต็มที จากนี้ ข้าจะริบพรศักดิ์สิทธิ์จากผู้ที่หันหลังให้ข้า"

นับแต่นั้นมา ทักษะบัพฟื้นฟูเวทย์ก็ได้อันตธานหายไปจากโลก พร้อมๆกับทักษะโล่แห่งแสง

กาลเวลาผ่านไป สมาคมต่างๆ ก็เติบโตสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับเมืองมากขึ้น
หลังจากจัดระบบผู้ศรัทธาให้ดูมีค่าขึ้นด้วยการอัพเกรดคลาสเป็นเครลิคและนัน
แต่ละวันจะสังเกตได้ว่า มีผู้ศรัทธาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะล้นเมืองเลยทีเดียว
อันเนื่องมาจากทักษะโจมตีด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ช่างมีอานุภาพร้ายกาจเหนือคำบรรยาย
ในสุสานใต้ดินของเมือง ก็มีเหล่านักบวชผัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันลงไปปราบผีร้ายอย่างต่อเนื่อง
ทำให้เหล่านักบวช มีวิชาแก่กล้า รุดหน้ารวดเร็วเกินสายอาชีพอื่น จนมีผู้สนใจขอเข้าร่วมทัพปราบผีร้าย

แต่ด้วยความอัดอั้นตันใจตั้งแต่สมัยยังเป็นนักบวชฝึกหัด ที่ไม่ว่าจะขอร่วมทัพกับใคร เพื่อหวังจะได้พัฒนาวิชาของตน
กลับไม่มีผู้ใดเหลียวแล ซ้ำพูดจาถากถางให้น้อยเนื้อต่ำใจ ว่าเป็นได้แค่ตัวถ่วง สร้างปมด้อยให้เกิดขึ้นในใจ
แต่มาวันนี้ วันที่เราอดทนฝึกฝนจนมีวิชาเก่งกล้า สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ก้าวเดินได้อย่างสง่างาม
ผู้ที่เคยเหยียบย่ำ เหยียดหยาม หาว่าเราเป็นได้แค่ตัวถ่วง กลับให้ความสนใจ หวังอาศัยความสามารถของเรา
ด้วยความแค้นที่ฝังแน่นมานาน แปรเปลี่ยนเป็นความทรนง หยิ่งผยองในศักดิ์ศรี
จึงมีนักบวชบางคน ได้ปฏิเสธคำขอจากผู้มาเยือน ซ้ำระบายความอัดอั้นตันใจ ว่าทำไมเมื่อก่อนถึงไม่เคยสนใจพวกเรา

เหล่าผู้มาเยือนบางคน ทนไม่ได้กับการถูกปฏิเสธ ซ้ำเกิดความริษยา ว่านักบวชที่ควรเป็นผู้สนับสนุนแนวหลัง
ทำไมถึงเก่งกาจเกินหน้าพวกตนไปได้ ทำไมเราต้องถูกหยามเกียรติเช่นนี้ เห็นทีจะทนอีกต่อไปไม่ได้แล้ว

จึงทำหนังสือร้องเรียนไปยังเจ้าเมือง ว่าเหล่านักบวชจะเก่งกาจสามารถเกินพวกตนมิได้
เจ้าเมืองจึงได้อธิษฐานถึงเทพผู้สร้าง รายงานถึงความต้องการของผู้มาเยือน
อ้อนวอนว่าควรทำตามคำขอ จะได้ไม่เกิดสงครามภายใน
เทพผู้สร้างจึงจำใจ ริบพรศักดิ์สิทธิ์เพื่อลดความสามารถบางอย่างของเหล่านักบวชให้น้อยลงตามคำร้องขอ
จึงเกิดผลทำให้ ทักษะ ประกาศิตเทวะ มีผลแค่เหล่าผีร้ายและปีศาจเท่านั้น แถมความรุนแรงก็ลดลงจากเดิมด้วยเช่นกัน

เมื่อเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ แทบจะไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป นักบวชหลายคนจึงหันไปศึกษาทักษะช่วยเหลือแทน
ซึ่งทำให้ค้นพบวิธีการใหม่ๆ ที่เอาไว้กำจัดมอนสเตอร์ดุร้าย โดยเฉพาะผีดิบและปีศาจต่างๆ
เหล่านักบวชจึงละทิ้งเวทย์โจมตีต่างๆ แล้วหันไปสนใจการโจมตีแบบนักรบ
โดยอาศัยทักษะช่วยเหลือที่ร่ำเรียนมา ทักษะศาสตราแห่งลูซิส จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ

เมื่อเหล่าผู้มาเยือนเห็นการพลิกแพลง เปลี่ยนแปลงรูปแบบของเหล่านักบวชในโฉมใหม่
จึงหวังพึ่งอาศัยทักษะช่วยเหลือเหล่านั้น ให้พวกตนได้เก่งกล้ามากยิ่งขึ้น
ความสัมพันธ์ระหว่างนักบวชและผู้มาเยือนเริ่มดีขึ้น แต่ก็มิได้เป็นเช่นนั้นตลอดไป
อันเนื่องจากผู้ผ่านทางบางคน ได้ขอความช่วยเหลือจากเหล่านักบวช
แต่คงด้วยการสั่งสอนมาไม่ดี ทำให้วิธีการพูดไม่รื่นหู เหล่านักบวชจึงไม่ให้ความช่วยเหลือ
ด้วยความคิดที่ว่า "พระนะ ไม่ใช่ทาส" จึงทำให้ผู้ผ่านทางร้องเรียนไปยังเจ้าเมือง
ว่านักบวชประพฤติตนไม่เหมาะสม เจ้าเมืองจึงเรียกตัวมาสอบถามความเป็นมาของเหตุการณ์
และแล้วงานก็เข้าเหล่านักบวชอีกครั้ง เมื่อเจ้าเมืองไม่อยากมีปัญหากับผู้ผ่านทาง
จึงอธิษฐานอัญเชิญเทพผู้สร้างมารับฟังเรืื่องราวต่างๆ เทพผู้สร้างจึงมีความเห็นว่า
ควรลงโทษเหล่านักบวช ด้วยการลดพลังของทักษะลง โดยให้เหตุผลว่า พรข้ามันแรงเกินไป
นับแต่นั้นมา ทักษะศาสตราแห่งลูซิส ที่เพิ่มค่าโจมตีให้ผู้ใช้ได้มาก จึงกากลงโดยทันที

เหล่านักบวชจึงอ้อนวอนเทพผู้สร้างว่า เหล่าอย่างนี้ พวกเราจะใช้ชีวิตกันเยี่ยงไร
ต้องกลับไปโดนเหยียบย่ำ ถากถาง ไร้คนเหลียวแล เช่นตอนที่ยังเป็นนักบวชฝึกหัดกระนั้นฤๅ

เทพผู้สร้างเกิดความเห็นใจในผู้ศรัทธาแห่งตน จึงมอบพรศักดิ์สิทธิ์ ให้ทักษะช่วยเหลืออย่างอื่น มีผลที่ดีขึ้น
อันจะเห็นได้ว่า ทักษะฟื้นฟูขั้นสูง กลายเป็นทักษะจำเป็นอันดับ 1 ที่นักบวชทุกคนต้องมีประจำตัว
ตามมาด้วยทักษะความรู้เรื่องบัพ ที่ในอดีตเคยเป็นทักษะของนักบวชฝึกหัด แต่โดนตัดออกจากหนังสือวิชาโบราณ
และทักษะอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้รับพรจากเทพผู้สร้าง ให้ดูดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากเหล่านักบวชปรับตัวเข้ากับความสามารถแบบใหม่ได้แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างนักบวชและผู้มาเยือน รวมถึงผู้ผ่านทางก็เริ่มดีขึ้นอีกครั้ง
แต่ละวันจะมีการรวมตัวไปกำจัดมอนสเตอร์และเหล่าผีปีศาจในที่ต่างๆ
กระชับความสัมพันธ์กันจนก่อตั้งเป็นกลุ่มย่อยๆ ในหมู่คนรู้จัก
ซึ่งต่อมาเจ้าเมืองต่างๆ จึงมีการประชุมให้กลุ่มย่อยต่างๆ สามารถจัดตั้งเป็นสมาคมได้
โดยใช้เหรียญตราก่อตั้งสมาคมมาแลกใบจดทะเบียนก่อตั้งสมาคม
นับแต่นั้นมา ก็มีสมาคมต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ด้วยจุดมุ่งหมายแตกต่างกันไป

แต่เมื่อคนมากขึ้น ปัญหาก็ย่อมมากขึ้นด้วยเช่นกัน
บางสมาคมดันไปมีปัญหากับสมาคมอื่น พูดคุยหาข้อยุติกันไม่ได้
สุดท้ายก็จบด้วยการท้าประลอง และบทบาทของนักบวชก็เริ่มโดดเด่นมากขึ้นด้วยเหตุนี้

เมื่อมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอาศัยในเมืองมากขึ้น เมืองก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
เจ้าเมืองใหญ่ 3 เมือง เห็นพ้องต้องกันว่า ต้องหาคนมาช่วยดูแลเมือง
จึงแบ่งปราสาทบางส่วนของเมืองให้เป็นที่แข่งขัน ชิงชัยกันระหว่างสมาคมต่างๆ
สมาคมใดมีความสามารถ ก็จะได้เข้ามาปกครองเมืองร่วมกับเจ้าเมืองนั้นๆ

ด้วยโอกาสดีๆ เยี่ยงนี้ ทำให้เหล่านักบวชมีโอกาสได้แสดงศักยภาพของตนได้อย่างเต็มที่
จึงได้มีการศึกษามหาเวทย์ศักดิ์สิทธิ์เพิ่มเติม จนได้ทักษะมหาพรแห่งลูซิสและประตูแห่งลูซิส
ทำให้สงครามชิงเมืองระหว่างสมาคมต่างๆ มีความดุเดือดและยืดเยื้อเป็นอย่างมาก

เวลาล่วงเลยผ่านไปนานพอสมควร มีผู้คนจำนวนหนึ่ง ได้ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่า
ทักษะมหาพรแห่งลูซิส ดีเกินไปหรือไม่ มีคนตาย ไม่ต้องเดินไปศพ แต่ยืนชุบในที่ห่างไกลได้เลย
อีกทั้งประตูแห่งลูซิส ที่สามารถเรียกกำลังเสริมจากแดนไกล เข้าไปช่วยเหลือในสงครามได้ทันที
ท่านเจ้าเมืองได้รับเรื่องนี้ไว้พิจารณา แล้วมีความเห็นว่า สมควรปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับสถานการณ์บ้านเมือง
จึงอธิษฐานอัญเชิญเทพผู้สร้างอีกครั้ง เพื่อแจ้งความประสงค์ขอปรับความสามารถของ 2 ทักษะนี้
เทพผู้สร้างตอบรับคำขอนั้น โดยการปรับให้ทักษะมหาพรแห่งลูซิส มีระยะพื้นที่ใช้งานน้อยลงกว่าเดิม
และทักษะประตูแห่งลูซิส ที่ทำให้ต้องมีผู้กล้า สละชีพของตนเพื่อเรียกกำลังเสริมมาโจมตีข้าศึก
แม้เหล่านักบวชจะอ้อนวอนขอความเห็นใจเพียงใด แต่เพื่อต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข
คำตัดสินของเทพผู้สร้าง จึงเป็นคำขาด ที่มิอาจโต้แย้งใดๆ ได้ทั้งสิ้น

กาลเวลาล่วงเลยมาอีกยุคสมัยหนึ่ง
ยุคที่การแข่งขันระหว่างสมาคมมีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม
มีการแก่งแย่งชิงดี เพื่อหวังสร้างบารมีและฐานอำนาจให้แข็งแกร่ง
วิบากกรรมของเหล่านักบวชก็ยังไม่จบสิ้น ดิ้นกันต่อไปด้วยเรื่องอุปกรณ์
อันเนื่องมาจากทักษะต่างๆ ที่เหล่านักบวชปรับใช้ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ได้อย่างดี
อีกทั้งยังมีอุปกรณ์สวมใส่ที่สร้างความเสียหายให้ผู้หวังร้ายที่มาโจมตี ของสิ่งนี้คือ "ตุ๊กตาต้องสาป"

ด้วยผลของการสะท้อนค่าโจมตี ทำให้ผู้ไม่หวังดี ต้องเจ็บตัวด้วยฝีมือตนเองนับครั้งไม่ถ้วน
แต่เหล่านักบวชแทบไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่ยืนร่ายทักษะฟื้นฟูรักษาตัวเองแค่เพียงเท่านั้น
จนผู้คับแค้นใจทนไม่ไหว ก่อไฟบูชาอัญเชิญเทพผู้ทำลายมาฟังเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น
ใจความเนื้อหากล่าวว่า ตุ๊กตาต้องสาป เป็นสมบัติล้ำค่าของผู้ศึกษาศาสตร์มืด
แล้วเหตุใด นักบวชผู้ที่ถือว่าอยู่คนละฝ่าย จึงสามารถใช้ของสิ่งนี้ได้กันเล่า
เทพผู้ทำลายได้ฟังเรื่องราวแล้วเดือดดาลเป็นอันมาก เหตุใดนักบวชผู้ศรัทธาเทพผู้สร้างอริแห่งเรา
จึงกล้ามาใช้สิ่งที่เรามอบให้ผู้รับใช้เราไว้ป้องกันตัว จะเหิมเกริมกันมากเกินไปแล้ว

เทพผู้ทำลายจึงร่ายคาถาสาปไปยังตุ๊กตา ว่าผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา ไม่สามารถใช้ของสิ่งนี้ได้
ผลแห่งคำสาปทำให้ตุ๊กตาต้องสาปที่เหล่านักบวชถือครองอยู่นั้น หลุดหล่นลงพื้น ไม่อาจใช้งานได้อีกต่อไป
เหล่านักบวชก็ได้แต่ทำใจ และใช้ชีวิตด้วยพรศักดิ์สิทธิ์ที่มี โดยไม่ยุ่งเกียวกับสิ่งของต้องสาปนับแต่นั้นมา

กาลเวลาล่วงเลยเข้าสู่ยุคโลกาวิบัติ เอ๊ย โลกาภิวัฒน์
แต่ศรัทธาแห่งองค์เทพผู้สร้างมิได้จางหายไปตามกาลเวลา
กลับยิ่งสร้างความศรัทธาให้แก่ผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีนักบวชอยู่แทบทุกพื้นที่ของโลก
ด้วยความเจริญของสังคม และความร้ายกาจของเหล่าปีศาจที่มีชีวิตรอดมาแต่โบราณ
จนวิวัฒนาการเติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ผู้คนสาขาอาชีพต่างๆ ต้องเร่งฝึกฝนคิดค้นวิชาใหม่ๆ
เพื่อเอาไว้ต่อกรกับเหล่าปีศาจร้ายที่สร้างความวุ่นวายให้กับโลกใบนี้

เหล่านักบวชก็ได้คิดค้นวิชาใหม่ขึ้นด้วยเช่น อันได้แก่
แสงแห่งเทพ เสาวิญญาณ แสงจู่โจม ทวนกระแส และ ดวงแสงปีศาจ
ซึ่งใช้งานได้ดี มีประสิทธิภาพสุดยอด จนติดอันดับทักษะยอดฮิตของอสุราโพลล์กันเลยทีเดียว

ด้วยผลของทักษะใหม่ที่คิดค้นขึ้น ทำให้นักบวชมีความโดดเด่นเกินหน้าเกินตาอาชีพอื่น
จนมีคนอิจฉาโวยวาย ลอบทำร้ายเหล่านักบวช จึงโดนเวทย์ระดับสูงเหล่านี้เล่นงานอาการสาหัส
หลังรักษาตัวจนหาย จึงคิดในใจว่าเห็นทีจะเล่นงานนักบวชพวกนี้ไม่ได้เป็นแน่
จึงใช้เล่ห์กลมนต์ดำ อัญเชิญเทพผู้ทำลาย ใส่ร้ายว่าเหล่านักบวชชักจะเหิมเกริมหนักขึ้นทุกวัน
คิดค้นวิชาแสนร้ายกาจ คงมีเป้าหมายเอาไว้ทำลายท่านอย่างแน่นอน
เทพผู้ทำลายโกรธอย่างมาก จึงสาปด้วยโทสะรุนแรง ส่งผลให้ทักษะระดับสูงเหล่านี้
มีประสิทธิภาพด้อยลงจนแทบจะไม่ต่างอะไรกับทักษะพื้นๆ ที่ใช้งานอะไรไม่ได้
เหล่านักบวชจึงอธิษฐานอัญเชิญเทพผู้สร้าง(ครั้งที่เท่าไหร่แ้ล้วเนี่ย) ให้ลงมาช่วยเหลือพวกตน
แต่เนื่องจากคำสาปจากความโกรธของเทพผู้ทำลายมีฤทธิ์ร้ายกาจเกินกว่าเทพผู้สร้างในอารมณ์ปกติจะต้านไหว
จึงทำได้แค่แก้ไขให้ทักษะใช้งานได้บ้างเล็กน้อย และเมื่อเวลาผ่านไป คำสาปก็เริ่มกัดกินจนพรที่ให้ไว้เสื่อมลง
จึงทำให้ทักษะต่างๆ แทบไม่มีผลอะไรให้คาดหวังในการใช้งานได้อีกเลย



เหล่านักบวชจะเป็นอย่างไร
วิถีชีวิตของพวกเค้าจะเปลี่ยนไปหรือไม่
คำสาปของเทพผู้ทำลายจะมีวิธีแก้ให้หายได้อย่างไร
ติดตามเอาใจช่วยพวกเค้ากันต่อไป สู้ต่อไป เครลิคและนันแห่งอสุรา  g#031
90% ของพวกชอบดราม่าด่าด้วยภาษาย่าทวดในอินเตอร์เน็ต
มักจะหงอแดกเงียบเป็นสากเวลาเจอหน้ากันนอกจอ จริงป้ะ ?


inw_guy

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 659
  • เกรียนครับ เอิ้กๆ

Buzaba`

  • เหตุผลเดียวที่กูยังเป็นอยู่อย่างนี้
  • Sr. Member
  • ****
    • กระทู้: 3,676
  • แด๊นนนนน

Buzaba`

  • เหตุผลเดียวที่กูยังเป็นอยู่อย่างนี้
  • Sr. Member
  • ****
    • กระทู้: 3,676
  • แด๊นนนนน
ผมก็เปนคนนึงที่ชอบทักษะของพระนะ รู้สึกสงส๊าร สงสารพระตอนนี้มาก  g#043 g#043


เด็กไม่ดีต้องโดนตีก้น

  • Asura Tester
  • Full Member
  • **
    • กระทู้: 1,272
  • เลิกเล่นแล้ว แต่ยังอ่านบอร์ด

~:•<แมวปีศาจ>•:~

  • โสด~ขั้นเทพ !!!
  • Asura Tester
  • Hero Member
  • **
    • กระทู้: 7,165
  • จีบได้ หาหม้ายจ้าว..!!!
    • Ith Continue
อืมม ย่อเหลือสามบรรทัด แล้วเราถึงจะอ่าน ;P

เหมาะกับเพจนี้มากเลยเบล  g#015

ยาวไปไม่อ่าน g#036
90% ของพวกชอบดราม่าด่าด้วยภาษาย่าทวดในอินเตอร์เน็ต
มักจะหงอแดกเงียบเป็นสากเวลาเจอหน้ากันนอกจอ จริงป้ะ ?


MC!!โก้

  • Newbie
  • *
    • กระทู้: 65
เห็นแก่พระเจ้า    หากพระองค์มีจริง พระองค์คงเกลียด เครลิค/นัน มากสินะ woon_hurt woon_hurt woon_hurt woon_hurt woon_hurt


สนุกมากๆเลยครับ ยังไงก็ขอให้ พระเทพกว่านี้อีกสักนิดก็ยังดี


~๐ Ryan ๐~

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,901


muanglnw

  • Jr. Member
  • **
    • กระทู้: 328
เทพผู้สร้าง (GM) เทพผู้ทำลาย (GMปัญญาอ่อน) ความจริงน่าจะลองดูมั้งนะ มหากาพย์ของวิเนี่ย อิๆ
น่าจะลองดูนะ ปรับ เบลดมาสเตอร์ ผ่า3ภิพบ ลดพลังโจมตีลงครึ่งหนึ่ง พาลาดิน ศาตราฝ่าเวหา ลดพลังโจมตี เมื่อเป้าหมายเกินระยะจะโดดไม่ขึ้นและอื่นๆ อิๆ


•Insomnia' •

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 547
  • un' :)
มีอาชีพที่มีวิวัฒนาการจริงๆ
เริ่มแรก : เคยมีโล่แห่งแสง
ต่อมา : เคยมีประกาศิตเทวะที่เป็นสกิลหากิน > ลดดาเมจ และใช้ได้เฉพาะผีดิบ
ต่อมา : เคยมีศาสตราแห่งลูซิสที่เพิ่มค่าโจมตีมาก > ลดดาเมจลง
ต่อมา : เคยมีทักษะมหาพรแห่งลูซิส ที่ไม่จำกัดขอบเขต
ต่อมา : เคยใช้ตุ๊กตาต้องสาปได้
ต่อมา : เคยมีแสงจู่โจมที่เป็นสกิลที่มีประสิทธิภาพ
          (ไม่สนใจว่าบัคหรือไม่บัค) 
ต่อมา : แสงจู่โจมทำได้แค่ทำให้ศัตรูติดมึน
ต่อมา : ไม่ทำดาเมจ ไม่ทำให้ติดมึน
สรุป : จะมีสกิลนี้ไว้ทำไมจ๊ะเนี่ย!


 g#001 มันเป็นปรมัตถ์ ...... นี่ยังไม่ได้ร่ายมาตั้งแต่ยุคที่

ผู้ทีมีศรัธทาต่อเทพผู้สร้างต้องรอ เวลา 30 ก่อนถึงจะแสดงตัว

อ้อนวอนพรจากความศรัทธาในพระองค์ได้นะเนี่ย


T0Nz

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,271
หากเหล่าผู้ศรัทธาเป็นสาวกของท่านผู้สร้าง

เหตุใดท่านผู้สร้างจึงรังแกสาวกของท่าน  เพียงเพราะลมปากของผู้อื่น


•Insomnia' •

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 547
  • un' :)
หากเหล่าผู้ศรัทธาเป็นสาวกของท่านผู้สร้าง

เหตุใดท่านผู้สร้างจึงรังแกสาวกของท่าน  เพียงเพราะลมปากของผู้อื่น[/b]

อุ้ย ชอบมาก