ศึกอลองพญา
ปลายปีพุทธศักราช 2302 พระเจ้าอลองพญา แห่งอังวะ ซึ่งได้ปราบปรามหัวเมืองอังวะแลรามัญ ทั้งสถาปนาราชวงศ์คองบองเป็นปึกแผ่นแล้ว มีดำริเคลื่อนทัพกำลังพล 40,000 เข้าตีกรุงศรีอยุธยา พร้อมด้วย มังระ ราชบุตร
ด้วยเห็นว่าทางกรุงศรีฯ เพิ่งผลัดแผ่นดินใหม่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เพิ่งสวรรคต ได้เพียงปีเดียว บรรดาพระโอรสก็แย่งชิงราชสมบัติกันเป็นอลหม่าน สุดท้าย พระเจ้าอุทุมพร รัชทายาท จำต้องสละราชบัลลังก์จากการบีบคั้นของพระเชษฐา พระเจ้าเอกทัศ
หลังจากทราบข่าวศึก ขุนรองปลัดชู กรมการเมือง วิเศษไชยชาญ จึงได้รวบรวมไพร่พล 400 นาย จัดเป็นกองอาทมาต เข้าอาสารับใช้แผ่นดิน ฝ่ายพระเจ้าเอกทัศ ทรงจัดทัพ ออกรับศึกเป็น 3 ทาง ทางท่ากระดานกาญจนบุรี 1 ขึ้นเหนือไปทางเชียงใหม่ 1 และลงใต้ไปทางมะริด 1
ทางฝ่ายขุนรองปลัดชู นั้นอยู่ในทัพใต้ที่จะยกไปยังเมืองมะริด โดยหารู้ไม่ว่า กองทัพ ชาญศึกของอังวะนั้น ตี ทวาย มะริด และตะนาวศรี แตกในเวลาอันรวดเร็ว ทัพหน้าของอยุธยาที่ส่งไปช่วยนั้น กลับถูกตีแตกที่ตำบลแก่งตุ่ม เมื่อได้ ทราบว่า ทัพหน้าอังวะ 8,000 นาย ข้ามเทือกเขาตะนาวศรีเข้าสู่เขตแดนอยุธยาแล้ว ขุนรองปลัดชูซึ่งมีไพร่พลเพียงหยิบมือ จึงวางกำลังดักซุ่มอยู่ที่ช่องเขาแคบๆใกล้หาดหว้าขาว เพื่อประวิงเวลาโดยหวังว่า ทัพหนุนอโยธยา จักมาหนุนได้ทันการณ์
ขุนรองปลัดชู ณ หาดหว้าขาว ศึกนี้ ผู้กล้าจักต้องช่วยขุนรองปลัดชูต้านทัพอังวะ เนื่องจากได้ข่าวว่าทัพหน้าอังวะของมังระราชบุตร ได้ข้ามพรมแดนเข้ามาทางด่านสิงขร ในที่สุดทัพหน้าอังวะ 5000 นายก็กำลังมาจนถึงช่องเขาใกล้หาดหว้าขาว ขุนรองปลัดชูจะยืนรอกองอาสาอยู่ใกล้ๆหาด เมื่อทัพศัตรูระลอกแรกมาถึง ผู้กล้าจักต้องคุ้มกันขุนรองปลัดชูไว้ให้ได้ ทัพอังวะเมื่อได้ข่าวว่ามีกองอาสาสกัดอยู่ที่หาดหว้าขาว ก็ทุ่มเทกำลังพลเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งทหารราบ ทัพม้า และทัพช้าง กองอาสาจักต้องต้านศึกซึ่งมีกำลังเข้มแข็งและเก่งกาจขึ้นทุกระลอก ให้ได้เป็นเวลา 30 นาทีก่อนทัพหนุนจะมาถึง
ผู้กล้าจักเข้าร่วมกองอาสาปกป้องแผ่นดินตามเจตนารมณ์ของขุนรองปลัดชูได้สำเร็จหรือไม่ หรือจะปล่อยให้ขุนรองปลัดชูสิ้นชีพหลั่งเลือดทาแผ่นดินต้านทัพอังวะอย่างเดียวดาย โปรดติดตาม!!!!
รวมภาพ การศึกระหว่าง ไทยและพม่า ณ หาดหว้าขาว