GAMEINDY กระดานสนทนา
www.gameindy.com

★NEVER ENDING★ ●● ASURA CITY ●● [Fiction เปิดตำนาน]

โพลล์

คิดว่าเรื่องนี้พอใช้ได้รึเปล่า?

โอเค
19 (55.9%)
พอประมาณ
4 (11.8%)
ไม่ดีเลย T^T
3 (8.8%)
ดีแล้วหล่ะ
8 (23.5%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 27

ปิดการโหวต: กันยายน 23, 2012, 00:02:13

Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!
NEVER ENDING
ASURA CITY




Chapter 11 : พวกเจ้าก็จงกวัดแกว่งอาวุธซะสิ! [100%]




[ณ เซาท์เทิร์นฟอท]



   ตุบ เคร้ง! ฉัวะ โครม!


   “ไอ้พวกทหารแตกทัพเขี้ยวทมิฬมันมาจากไหนกันเนี่ย ปกติมุดหัวอยู่แต่ในป่า”


   ฉัวะ!


   “อยู่ๆก็มาบุกเมืองกันแบบนี้ ไม่สวยนะเฮ้ย”


   “ไอ้คุณหัวหน้ากิลลลล รองหัวหน้ากิลลลลลคร้าบบบบบ”


   “มีอะไรอีกละวะคราวนี้”


   “ที่นอกเขตเมืองยังมีพวกมันอีกเยอะ ไปช่วยกันจัดหน่อย แฮกๆ”



   “มันมาจากไหนวะ ฮึ่ย! เดี๋ยวพ่อจะจับเชือดให้หมดเลยคอยดู”


   “ถ้าปล่อยให้มันเข้ามาบุกถึงในเมืองฟอทได้เสียชื่อกิล Evolution กันพอดี”
   


   เสียงดาบกระทบดาบ เสียงดาบกระทบมีด เสียงลูกธนู กระบี่ หรือแม้แต่ลูกปืน กระทบกันดังขึ้นเรื่อยๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พลเมืองมากมายร่วมกันต่อสู้ และศัตรูหลังไหลเข้ามาราวกับจงใจ


   “ทำไมมันเยอะแบบนี้วะหัวกิล”


   “แล้วผมจะไปรู้ไหมล่ะครับคุณรองกิล”


   “มันเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบนะ ไม่ต้องตอบก็ได้ เสียฟิลหมดเลยแกนี่”


   “อ้าว โทษทีละกันพรรคพวก ฮ่าๆ”



   ฟิ้วววว ปึก!


   “กรร...เจ้าพวกมนุษย์ตายซะเถอะ”


   “เหอะ! ฉันว่าแกมากว่ามั้ง”



   ฉัวะ!


สิ้นเสียงขวานอันใหญ่ ร่างศัตรูขาดสะบั้น พริบตาก็จางลงจนหายไป


   “อยู่แต่ในป่าก็ดีแล้วแท้ๆ ออกมาหาที่ตายชัดๆ”


   “ระวัง! ครับหัวกิล”
เสียงลูกกิลดังขึ้นเมื่อหมุดเหล็กแหวกผ่านอากาสหมายจะปักกลางอกเบอร์เซอร์เกอร์


   ฟิ้ว เคร้ง!


   หมุดเหล็กตกกระทบพื้นหลังจากที่ถูกกระบี่เล่มยาวเบี่ยงวิถีลงอย่างฉิวเฉียด


   ‘เกือบซี้ม่องเท่งแล้วไหมล่ะ’ เบอร์เซอร์เกอร์คิดในใจ แต่เมื่อหันไปเจอคนที่ช่วยเอาไว้ทำเอาคนถูกช่วยแทบลงไปดิ้นกับพื้น


   “ประมาทเกินไปแล้วมั้งคุณหัวกิลอีโว ฮ่าๆ” กระบี่เล้มยาวถูกเจ้าของพาดขึ้นบ่าด้วยท่าทางกวนพร้อมกับเสียงหัวเราะลั่น


   “ให้ตายเถอะโรบิ้น คนอย่างฉันถึงขั้นต้องให้แกมาช่วยเลยหรอเนี่ย น่าอนาถสุดๆ”


   “พูดกับคนที่เพิ่งช่วยชีวิตแบบนี้ได้ไงหะ แล้วไหนคำขอบคุณล่ะ”


   “ไม่ได้ขอให้ช่วยเลยเหอะ แต่ก็ขอบใจ ไอ้คุณหัวกิลมาร”



   “เฮ้ๆ เรียกชื่อกิลให้เต็มๆหน่อยรู้สึกเหมือนโดนด่ายังไงก็ไม่รู้......เฮ้ย!”


   ฉัวะ! ตุบ


   “หายกันแล้วนะคุณหัวกิลมาร” คนถูกช่วยหันไปมองหมุดเหล็กที่ตกอยู่กับพื้น พร้อมๆกับขวานลอยกลับไปที่มือของเจ้าของ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ใช่ว่าตกใจกับหมุด แต่ตกใจกับขวานอันใหญ่ที่ลอยมาเฉียดหน้าต่างหาก อีกฝ่ายอยากจะช่วยน่ะเข้าใจ แต่ขว้างมาแบบนี้แทบหัวใจวายกันเลยทีเดียว


   “ทีหลังอย่าไปช่วยใครเขาอย่างนี้อีกนะนายน่ะ หัวใจจะวาย” หัวกิลอีโวไม่ตอบได้เพียงแต่หัวเราะดังลั่นตอนที่เห็นใบหน้าตกใจของเซนจูเลี่ยนหนุ่ม


   “น่าจะปล่อยให้โดนหมุดเหล็กปักทะลุอกนะนั่น” เสียงรองหัวหน้ากิลมารดังขึ้นข้างหลัง พร้อมกับเดินมาสมทบหัวหน้ากิลหลังจากที่มองเหตุการณ์มาตั้งแต่แรก


   “ก็จริงของแก.....อ้าวสวัสดีตอนเช้ารองหัวหน้ากิลอีโว” 


   “ฉันเพิ่งจะรู้ว่าบ้านนายสวัสดีตอนเช้ากันตอนเที่ยงยี่สิบนะ”


   “เผอิญฉันมันอินดี้น่ะ ไม่ชอบเหมือนใครฮ่าๆ”
รองกิลอีโวได้แต่ส่ายหน้าด้วยไม่รู้จะว่ายังไงดี ก่อนจะถูกขัดขึ้นด้วยเสียงใครสักคน


   “เอ๊าๆๆๆๆคุณหัวหน้ากิลและรองหัวหน้ากิลทั้งหลายครับพวกมันมีอีกเป็นร้อยมาช่วยกันหน่อยเซ้”


   “รู้แล้วน่า จะซัดให้ลืมทางกลับบ้านเลยคอยดู”
ไม่พูดเปล่าหัวหน้ากิลทั้งสองเดินไปข้างหน้าพร้อมกับหักนิ้วมือดังกร๊อบแกร๊บ


   “นายไม่ตามไปรึไงคุณรองกิลอีโว” รองกิลมารหันมาถามเมื่อไม่เห็นคนข้างๆกระดิกตัวไปไหน


   “ศัตรูแค่สองสามร้อยคนไม่คณามือหัวกิลหรอกไปสองคนก็เกินพอ แล้วไหนจะมีชาวเมืองฟอทอีกเยอะ ที่สำคัญอยากจะไปตรวจสอบอะไรหน่อย”


   “หือ? สงสัยอะไรกับหมุดเหล็กสองอันนั่น”
รองกิลมารเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยที่อีกคนหยิบหมุดเหล็กสองอันที่ตกอยู่กับพื้นขึ้นมา


   “มันลอยมาจากทางไหน นายพอจะเห็นไหม?”


   “ไม่เห็นแต่มันก็คงเป็นพวกทหารเขี้ยวทมิฬที่มันซุ่มอยู่แถวๆนี้นั่นแหล่ะ”


   “ไม่ใช่หรอก มันจะบังเอิญเกินไปไหม”


   “ทำไมล่ะ”


   “เอาไปดูสิ”
รองกิลอีโวพูดพร้อมกับโยนหมุดเหล็กสองอันไปให้อีกคน


   “นี่มัน.....”


   “ทหารเขี้ยวทมิฬที่ไหน ใช้หมุดเหล็กที่ทำจากเควสการงานบ้างล่ะ สงสัยงานนี้พวกหัวกิลทั้งหลายคงโดนหมายหัวซะแล้วมั้ง”








   [ ณ ริมแม่น้ำในเมือง เซาท์เทิร์นไชร์ ]



   “สรุปว่าทางนั้นจะเอาจริงสินะ”


   “ดูได้จากที่พวกมันบุกฟอท มันคงกะจะจัดเต็มในไม่ช้านี้นะผู้ใหญ่เบน สู้กันแต่แรกซะก็จบไปนานแล้ว ให้เสียเวลาตามหาไข่จิ้งจกอยู่ได้ตั้งนาน”


   “พวกเจ้าไม่ได้ไปช่วยพวกนั้นตามหาไข่ซะหน่อย ทำเป็นบ่น”


   “ผมแค่บ่นแทนพวกท่านหัวหน้าสมาคมเท่านั้นแหล่ะ”


   “ว่าไปนั่น.....ว่าแต่พวกเจ้าไม่ไปเฝ้าเมืองรึไง เกิดเรดคลิฟโดนบุกจะทำยังไง”
ชายร่างท้วมที่ผู้คนต่างเรียกว่า ผู้ใหญ่บ้านเบน เอ่ยขึ้นและมองไปยังแอสหนุ่มทั้งสอง หัวหน้าและรองหัวหน้าสมาคมชิวๆ


   “พวกมันเสียกำลังคนไปมาก ผมว่าพวกมันคงยังไม่บุกเมืองอื่นตอนนี้ ที่พวกมันบุกฟอทคงแค่อยากเตือนว่าพวกมันเอาจริงเท่านั้น” หัวหน้าสมาคมเอ่ยขึ้น


   “จะว่าไปที่เจ้าพูดมามันก็ถูก.....หือ?”


ผู้ใหญ่บ้านยกมือลูบเคราก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อหันไปเห็นหัวหน้าสมาคมทั้งสองและรองหัวหน้าที่เดินมาด้วยกัน เขาแปลกใจปกติหัวหน้าสมาคมพวกนี้เคยเดินด้วยกันซะที่ไหนแต่วันนี้ดันมากันครบ


   “อ้าว! เจ้าพวกเด็กน้อยมากันครบเลยนะวันนี้” ผู้ใหญ่บ้านหันไปแซว


   “ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะลุงเบน” หัวหน้าอีโวทำหน้ามุ่ยก่อนจะเอ่ยตอบ ทำเอาคนแก่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความชอบใจ


   “เทียบกับข้าแล้วพวกเจ้าก็เพิ่งจะเกิดเมื่อวานนี้นั้นแหล่ะ ฮ่าๆ”


   “โย่ว สวัสดีตอนเช้าแก๊งค์”
หัวหน้าสมาคมมารหันไปทักหัวหน้าสมาคมชิวๆด้วยท่าทางกวนๆตามแบบของเขา


   “นี่มันจะบ่ายหนึ่งแล้วนะไอ้คุณตั้ม นาฬิกานายมันเสียรึเปล่า”


   “เปล่าหรอก แค่ไอ้คุณตั้มมันอินดี้เกินไปก็เท่านั้น”
ไม่ใช่ตั้มที่ตอบแต่เป็นรองหัวหน้ากิลของเขาแทน


   “ฮ่าๆ งั้นหรอ”


   “ว่าแต่พวกท่านหัวหน้าสมาคมยังประชุมกันไม่เสร็จอีกหรอ นี่ก็นานแล้วนะ”


   “คงมีเรื่องให้ต้องคิดนั่นแหล่ะ”



   ติ๊ด ติ๊ด วูบบบบบบบบบบบบ 


เครื่องมือสื่อสารรูปร่างประหลาดของหัวหน้าสมาคมทั้งสามดังขึ้นพร้อมกัน เรียกความสนใจของคนทั้งเจ็ดได้อย่างดี


   “สวัสดีครับท่านผู้พันคาร์เตอร์” หัวหน้าสมาคมอีโวเป็นฝ่ายเลือกที่จะตอบแทนหัวหน้าสมาคมอีกอีกสองคน


   “พวกเจ้าคงจะอยู่ด้วยกันสินะตอนนี้”


   “ครับ แล้วในที่ประชุมได้ผลยังไงบ้างครับ”


   “ไม่มีทางเลือกในเมื่อไข่ก็หาไม่ได้ และพวกนั้นยังมาบุกเมืองฟอทเท่ากับว่าประกาศศึกกับเรา”


   “หมายความว่าท่านจะให้...”


   “พวกเจ้าจงกวัดแกว่งอาวุธขึ้นซะ!!”


   “ครับ!”
เสียงทั้งหกเสียงตอบพร้อมกัน ก็แน่ล่ะพวกเขารอเวลานี้มานานแล้วนี่


วูบบบบบบบบบบบบบ


“พวกหนุ่มๆนี่เขาคึกคักกันดีจริงๆ ฮ่าๆ”




   *



   “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับกันเหอะ” เสียงหัวหน้ากิลมารดังขึ้นหลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านเบนเดินแยกออกไป


   “เดี๋ยวก่อน”


   “ว่าไงครับคุณรองกิลอีโว”


   “ฉันมีเรื่องอยากจะเตือนพวกนายหน่อย”
เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับโยนหมุดเหล็กสองอันไปให้


   “หมุดเหล็ก?”


   “ก็หมุดเหล็กที่เกือบแทงทะลุตัวพวกนายนั่นแหล่ะ”


   “แล้วทำไม?”


   “ดูให้ดีๆสิ”
คนถือหมุดเหล็กพลิกของในมือไปมาแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรน่าสงสัย


   “ก็แค่หมุดเหล็กการงาน”


   “แล้วทหารเขี้ยวทมิฬที่ไหนใช้หมุดเหล็กจากเควสการงานบ้างล่ะวะ”


   “นายกำลังจะบอกว่า สองคนนั้นโดนหมายหัวสินะ”
หัวหน้ากิลชิวๆเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ไปยังสองคนที่ถูกพูดถึง


   “หมายถึงนายด้วยนั่นแหล่ะ...ทั้งสามคน”


   “อ้อ! เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง”
คนถูกหมายหัวเอ่ยขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน


   “กลัวจังเลย หึหึ”


รองหัวหน้ากิลทั้งสามมองไปยังหัวกิลที่กำลังยิ้มระรื่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังทำท่าตื่นเต้นอย่างกับรอให้เขามาฆ่าซะอย่างนั้น


   ได้ข่าวว่ากำลังถูกหมายหัวนะนั่น


   “ไม่น่าพูดให้เปลืองพลังงานเล่นเลยจริงๆ”





To be continued…




●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●




Time : 16.15  [02/05/55]




No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!

NEVER ENDING
ASURA CITY





Chapter 12 : ก็บนฟ้านั่นไง!!! [25%]





   โฮกกกกกกกกกก กรรรรรรรรรรร!


   “ราชามังกรเกเลี่ยนข้าขอพูดครั้งสุดท้ายเจ้าจงกลับไปซะ!” เสียงทุ้มหนักๆเอ่ยขึ้นกับผู้มาเยือน(?)ที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ มังกรร่างสูงใหญ่ ปีกสีอเมทิสต์กำลังโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่งและดวงตาแรงฉานราวกับไฟ เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ที่ผู้คนต่างขนานนามว่า มอนเตอร์ในตำนานราชามังกรเกเลี่ยน


   “ข้าจำเป็นต้องฟังที่เจ้าพูดด้วยรึ”


   “เราตกลงกันแล้วว่าพวกข้าจะหาไข่ไปคืนให้เจ้า แล้วทำไมถึงยังมาคิดจะทำสงครามกับพวกเรา”


   “กรรรร ข้อตกลงเรื่องไข่กับการที่พวกเจ้ามาบุกทำร้ายทหารเดรโก้ของข้ามันคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่ข้าต้องยอมกลับไป”


   “เดรโก้?” เคยไปทำร้ายเมื่อไหร่กัน? “ข้าคิดว่าเจ้าคงเข้า.....”



   ฉัวะ!


   ผู้ปกครองเมืองยังไม่ทันจะได้เอ่ยสิ่งที่คิดอยู่ในหัวออกไป กรงเล็บแหลมก็พุ่งตรงมายังเขา สองเท้ากระโดดหลบอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่เพลงกระบี่สวนคืนไปยังเป้าหมาย แต่อีกฝ่ายก็บินขึ้นฟ้าหลบได้อย่างฉิวเฉียดเช่นกัน


   แรงประทะเมื่อครู่แม้ทั้งสองยังไม่ได้เอาจริงแต่กลับส่งผลให้แผ่นดินสะเทือน เหล่ามอนสเตอร์น้อยใหญ่ต่างพากันวิ่งหลบกันให้ทั่ว


   ‘สมกับเป็นมอนสเตอร์ในตำนานจริงๆ’


   “ข้าไม่คิดจะฟังคำโกหกใดๆของพวกเจ้าทั้งนั้น”


   “งั้นก็ไม่มีทางเลือก ขอโทษทีนะแต่เจ้าคงต้องตายที่นี่แหล่ะราชามังกร”


   “กรรรร เจ้ามนุษย์สามหาวน้ำหน้าอย่างเจ้าน่ะรึจะจัดการข้าได้”


   “เรื่องนั้นคงต้องให้เจ้าตัดสินด้วยตาของเจ้าเองแล้วกัน”



สิ้นคำกระบี่เล่มยาวถูกเจ้าของวาดออกไปหมายจะให้ถูกเป้าหมาย อีกฝ่ายบินขึ้นเหนือดินด้วยความรวดเร็วปีกอันแข็งแกร่งกระพือออกจนสุดปลายโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดพายุโหมกระหน่ำพัดต้นหญ้า ใบไม้ไม่เว้นแม้กระทั่งมอนสเตอร์ตัวน้อยที่วิ่งหลบไม่ทันการ





โครม! ตึง!

เสียงกระแทกโครมครามดังขึ้นในเมือง แน่นอนว่ามันเรียกความสนใจจากทั้งสองได้เป็นอย่างดี


“ฝีมือลูกน้องเจ้ารึราชามังกร เจ้าคิดจะทำร้ายชาวเมืองที่ไม่รู้เรื่องด้วยหรือไง!!!” ผู้พันเอ่ยเสียงเข้ม


“อย่ามาดูถูกข้านะเจ้ามนุษย์ ข้าไม่เคยคิดจะทำเช่นนั้น”


“ไม่ใช่เจ้า?”
ผู้พันครุ่นคิดและเงียบไปกว่าอึดใจ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะจากราชามังกร


“ฮ่าๆ คงมีศัตรูจากที่อื่นมาบุกทำร้ายชาวเมืองของเจ้านั่นแหล่ะ ในเมืองของเจ้าตอนนี้คงมีแต่พวกเด็กเมื่อวานซืน แล้วอย่างนี้เจ้าจะทำยังไงดีล่ะพ่อเมือง ข้าไม่ยอมให้เจ้ากลับเข้าไปในเมืองง่ายๆหรอกนะ”


สิ้นคำพูด มังกรในตำนานหวังจะได้เห็นผู้พันตรงหน้าร้อนรน แต่กลับผิดหวังเขายังคงนิ่งและยังยิ้มปราชัย


‘ทำไมยังยิ้มได้’ ราชามังกรได้แต่คิดในใจ


“ราชามังกร เจ้าคงยังไม่รู้ว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนที่เจ้าพูดถึงน่ะมันแสบกันขนาดไหน!!!”





[25%]

No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!

NEVER ENDING
ASURA CITY





Chapter 12 : ก็บนฟ้านั่นไง!!! [100%]





   โฮกกกกกกกกกก กรรรรรรรรรรร!


   “ราชามังกรเกเลี่ยนข้าขอพูดครั้งสุดท้ายเจ้าจงกลับไปซะ!” เสียงทุ้มหนักๆเอ่ยขึ้นกับผู้มาเยือน(?)ที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ มังกรร่างสูงใหญ่ ปีกสีอเมทิสต์กำลังโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่งและดวงตาแรงฉานราวกับไฟ เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ที่ผู้คนต่างขนานนามว่า มอนเตอร์ในตำนานราชามังกรเกเลี่ยน


   “ข้าจำเป็นต้องฟังที่เจ้าพูดด้วยรึ”


   “เราตกลงกันแล้วว่าพวกข้าจะหาไข่ไปคืนให้เจ้า แล้วทำไมถึงยังมาคิดจะทำสงครามกับพวกเรา”


   “กรรรร ข้อตกลงเรื่องไข่กับการที่พวกเจ้ามาบุกทำร้ายทหารเดรโก้ของข้ามันคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่ข้าต้องยอมกลับไป”


   “เดรโก้?” เคยไปทำร้ายเมื่อไหร่กัน? “ข้าคิดว่าเจ้าคงเข้า.....”



   ฉัวะ!


   ผู้ปกครองเมืองยังไม่ทันจะได้เอ่ยสิ่งที่คิดอยู่ในหัวออกไป กรงเล็บแหลมก็พุ่งตรงมายังเขา สองเท้ากระโดดหลบอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่เพลงกระบี่สวนคืนไปยังเป้าหมาย แต่อีกฝ่ายก็บินขึ้นฟ้าหลบได้อย่างฉิวเฉียดเช่นกัน


   แรงประทะเมื่อครู่แม้ทั้งสองยังไม่ได้เอาจริงแต่กลับส่งผลให้แผ่นดินสะเทือน เหล่ามอนสเตอร์น้อยใหญ่ต่างพากันวิ่งหลบกันให้ทั่ว


   ‘สมกับเป็นมอนสเตอร์ในตำนานจริงๆ’


   “ข้าไม่คิดจะฟังคำโกหกใดๆของพวกเจ้าทั้งนั้น”


   “งั้นก็ไม่มีทางเลือก ขอโทษทีนะแต่เจ้าคงต้องตายที่นี่แหล่ะราชามังกร”


   “กรรรร เจ้ามนุษย์สามหาวน้ำหน้าอย่างเจ้าน่ะรึจะจัดการข้าได้”


   “เรื่องนั้นคงต้องให้เจ้าตัดสินด้วยตาของเจ้าเองแล้วกัน”



สิ้นคำกระบี่เล่มยาวถูกเจ้าของวาดออกไปหมายจะให้ถูกเป้าหมาย อีกฝ่ายบินขึ้นเหนือดินด้วยความรวดเร็วปีกอันแข็งแกร่งกระพือออกจนสุดปลายโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง จนเกิดพายุโหมกระหน่ำพัดต้นหญ้า ใบไม้ไม่เว้นแม้กระทั่งมอนสเตอร์ตัวน้อยที่วิ่งหลบไม่ทันการ





โครม! ตึง!

เสียงกระแทกโครมครามดังขึ้นในเมือง แน่นอนว่ามันเรียกความสนใจจากทั้งสองได้เป็นอย่างดี


“ฝีมือลูกน้องเจ้ารึราชามังกร เจ้าคิดจะทำร้ายชาวเมืองที่ไม่รู้เรื่องด้วยหรือไง!!!” ผู้พันเอ่ยเสียงเข้ม


“อย่ามาดูถูกข้านะเจ้ามนุษย์ ข้าไม่เคยคิดจะทำเช่นนั้น”


“ไม่ใช่เจ้า?”
ผู้พันครุ่นคิดและเงียบไปกว่าอึดใจ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะจากราชามังกร


“ฮ่าๆ คงมีศัตรูจากที่อื่นมาบุกทำร้ายชาวเมืองของเจ้านั่นแหล่ะ ในเมืองของเจ้าตอนนี้คงมีแต่พวกเด็กเมื่อวานซืน แล้วอย่างนี้เจ้าจะทำยังไงดีล่ะพ่อเมือง ข้าไม่ยอมให้เจ้ากลับเข้าไปในเมืองง่ายๆหรอกนะ”


สิ้นคำพูด มังกรในตำนานหวังจะได้เห็นผู้พันตรงหน้าร้อนรน แต่กลับผิดหวังเขายังคงนิ่งและยังยิ้มปราชัย


‘ทำไมยังยิ้มได้’ ราชามังกรได้แต่คิดในใจ


“ราชามังกร เจ้าคงยังไม่รู้ว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนที่เจ้าพูดถึงน่ะมันแสบกันขนาดไหน!!!”









[ณ เซาท์เทิร์นฟอท]


“โอ้โห! มากันเป็นฝูงเลยแหะ ดูเหมือนจะมากกว่าคราวที่แล้วอีกนะเนี่ย” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นจากบนหอคอยในเมือง มือขวาของหัวหน้าสมาคมอีโวถูกเจ้าของนำขึ้นมาวางชิดหน้าผากป้องตาดูจำนวนศัตรูที่เรียงหน้าอยู่นอกเมือง มากันพร้อมหน้าซะเหลือเกินนะ


“นั่นสินะ ได้ค่าตัวคนละเท่าไหร่เนี่ย.....ว่าแต่รองกิลหายไปไหนฟะ ไม่เห็นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”  หนึ่งในสมาคมเอ่ยขึ้นบ้าง ทำให้อีกคนนึกขึ้นได้


‘นั่นสิ รองกิลมันหายไปไหนของมันวะ’


“ช่างเถอะรายนั้นน่ะเก่งจะตายคงไม่เป็นไรหรอก” ปากพูดพร้อมกับปลดขวานออกจากหลัง แล้วสองเท้าเตรียมเดินออกนอกเมือง แต่ถูกทักท้วงขึ้นซะก่อน


“ว่าแต่หัวกิลได้ข่าวว่าถูกหมายหัว ออกไปเป็นเป้าแบบนี้จะดีหรอ?” อีกคนหยุดถามด้วยความเป็นห่วงแต่คนถูกห่วงนั้นกลับไม่ได้ห่วงตัวเองเอาซะเลย ดูจากเสียงหัวเราะนั่นน่ะ


“ฮ่าๆ รอให้มาฆ่าอยู่เนี่ยไม่มาสักที” ก่อนจะเดินออกวาบไปนอกเมืองด้วยท่าทีสบายๆ แบบนี้คนถามก็พูดไม่ออกสิ!!!


“ปล่อยเขาไปเถอะรายนั้นน่ะ”


“ฉันก็ว่างั้น”
สิ้นเสียงพูด อีกสองคนที่เหลือก็ก้าวเข้าไปในวาบสีฟ้าสว่าง ฉับพลันร่างทั้งสองก็ตามหัวหน้าสมาคมออกมายังนอกเมือง บรรยากาศร่มๆ ต้นไม้เขียวขจีแม้จะมีไม่มากนัก ดอกไม้สีสันงดงามของหน้าเมืองฟอทช่างตัดกับไอ้พวกทหารเขี้ยวทมิฬหน้าเห่ยที่กำลังยืนเรียงหน้ากันอยู่นี่ซะเหลือเกิน


เพื่อนในสมาคมมารออยู่ก่อนแล้วค่อนข้างมาก แต่ไม่ยักกะเห็นหัวหน้าที่พวกเขาตามมาติดๆ


“พวกนายมาช้า” ยังไม่ทันจะได้ก้าวถึงสามเก้าเสียงแซวจากสมาชิกคนอื่นในสามคมก็แว่วมากระทบหู


“โทษทีละกันพวก.....แล้วหัวกิลล่ะเมื่อกี้เพิ่งเข้ามาก่อนพวกเราแปปเดียวเองนี่”


“นู้น! เขาบอกจะขอลุยเดี่ยวน่ะ”
คนพูดยืนพิงกำแพงอิฐกอดอกพยักเพยิดหน้าไปหาคนที่เป็นหัวข้อสนทนา


คนที่พวกเขาถามหากำลังตวัดขวานอันใหญ่ไปมาราวกับเป็นเรื่องสนุก ทหารแตกทัพเขี้ยวทมิฬกระเด็นตามแรงฟันก่อนลำตัวจะจางหายไป


ฉัวะ! ฉึบ!


“เฮ้ๆลุยเดี่ยวแบบนี้นายก็เด่นอยู่คนเดียวสิ ไม่ยอมนะโว๊ย”


ฟิ้ววว ฉึบ!


“ฮ่าๆ พวกนายไม่เข้ามาเองนี้”


เก็ง! ตุบ


‘แล้วใครล่ะที่มันบอกจะขอลุยเดี่ยวน่ะ’


“ช่างเถอะหัวกิล.....อ่อเมื่อกี้ทหารของท่านผู้พันรายงานมาว่าตอนนี้พวกมันบุกทุกเขตแล้ว อย่าลืมอพยพเด็ก ผู้หญิงแล้วก็คนแก่ไปที่ปลอดภัยด้วย”


“แล้วผู้หญิงพวกนั้นต้องให้อพยพด้วยไหม?”
หัวหน้าสมาคมพยักเพยิดหน้าไปแซวสมาชิกสาวสวยในสมาคมด้วยท่าทางไม่จริงจังนัก เขารู้พวกนั้นน่ะหญิงเหล็ก!


‘แสงอัศนีบาต’


เปรี้ยง!!! สายฟ้าขนาดมหึมาฟาดลงมายังกลุ่มศัตรูทันทีที่สิ้นเสียงวิซาร์ดสาว ทหารแตกทัพต่างล้มลงเกรียวกราวเพราะสายฟ้าเมื่อครู่ พลันร่างก็หายไป


“คงไม่ต้องไปซ่อนก็ได้มั้ง”


“นั่นสิ”



โครม!!! ตึง!!!
เสียงกระแทกโครมครามดังสนั่น สองเท้าของผู้คนที่แนบกับพื้นรับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือนขนาดย่อม


“เสียงอะไรวะ?”


   “หัวกิลเสียงเมื่อกี้มาจากเรดคลิฟ...เฮ้ย!!! หัวกิลระวัง” นายกองเขี้ยวทมิฬกับดาบเล่มใหญ่กระโจนมาหมายจะฟันเบอร์เซอร์เกอร์แต่เพราะเสียงแผดลั่นของลูกกิลทำให้เบี่ยงตัวหลบทันพร้อมๆกับที่ขวานเล่มใหญ่สวนคืน แต่โดนเพียงแค่เฉียดๆ ฝ่ายนั้นก็ใช่เล่นถึงขนาดหลบขวานได้


   “ฉันไม่ยอมให้พวกแกเข้าไปในเมืองได้หรอกเว้ย!!! สาบานด้วยเกียรติของหัวหน้าสมาคมอีโวได้เลย” 


   “หึหึ แกนี่มันตายยากจริงๆ”


   “ก็แน่ล่ะตราบใดที่ฉันยังไม่ตายอย่าหวังว่าพวกแกจะทำลายเมืองได้”


   “ไร้สาระ คิดว่าจะปกป้องได้ตลอดรึไง แค่บุกเข้าไปในเมืองแล้วจุดไฟเผาซะก็ทำลายได้แล้ว”


   “หึ! แกคิดอย่างนั้นหรอไอ้ทหารหน้าเห่ย เมืองนี้น่ะไม่ถูกทำลายได้ง่ายๆหรอกนะ”


   “อะไรทำให้แกมั่นใจได้บ้างล่ะ”
เสียงสองเสียงดังขึ้นต่อเนื่องสงครามฟันดาบแทบจะกลายเป็นสงครามน้ำลายระหว่างกันเสียแล้ว อีกทั้งศัตรูท้าทายอย่างมั่นใจเมืองแค่นี้ทำไมมันจะทำลายไม่ได้


   “ก็บนฟ้านั่นไง!!!”


   “?”


   “แหกตาดูซะแล้วจำใส่หัวแกเอาไว้ ตราบใดที่มันยังไม่ล้มลงเมืองนี้ก็จะไม่มีวันถูกทำลายเด็ดขาด!!!”






ในเวลาเดียวกัน [ณ เดธวอลเลย์]



โครม!!! ตึง!!!


“นั่นเสียงอะไรน่ะ?”


“ไม่แน่ใจว่ะหัวกิล แต่เสียงมาจากเรดคลิฟแน่ๆล่ะ”


“เกิดอะไรขึ้นที่เรดคลิฟกันนะ ดูท่าจะไม่ดีซะแล้ว หัวกิล รองกิลไม่ไปดูที่เรดคลิฟหน่อยหรอ”
เสียงหวานของนักดาบสาวเอ่ยขึ้นลอยๆแต่ประโยคหลังหันไปพูดกับหัวหน้าและรองหัวหน้า


“ไม่จำเป็นหรอกไอ้แก๊งค์ก็อยู่เฝ้าที่นั่น มันเป็นถึงหัวหน้าสมาคมชิวๆเลยนะที่สำคัญมันเก่งไม่ใช่เล่นเลยล่ะ”


“หือ? ฮ่าๆ”
นักดาบสาวและรองหัวหน้าสมาคมมองหน้ากันอย่างแปลกใจก่อนทั้งคู่จะหัวเราะออกมาทำให้คนถูกหัวเราะมองค้อนซะยกใหญ่


“หัวเราะอะไรของพวกแกฮะ”


“เปล่าๆฮ่าๆ แค่แปลกใจเฉยๆไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากนาย ฮ่าๆ”
สองแขนยกขึ้นข้างหน้าเป็นสัญญาณว่ายอมแพ้ ทั้งๆที่ยังหัวเราะจนหน้าแดงกันทั้งคู่


“ถึงฉันจะบอกว่ามันเก่งเนี่ยนะ แต่ก็สู้ฉันไม่ได้หรอกโว๊ยยย!!!”


“จ้าๆพ่อคนเก่ง ว่าแต่เมื่อไหร่จะออกไปจัดการพวกทหารหน้าเห่ยนั่นสักที คนอื่นเขาออกกันไปหมดแล้วนะ”


“รู้แล้วน่า”
สิ้นเสียงเท้าทั้งสามคู่ก็เดินเข้าวาบสีฟ้าสว่าง สิ่งรอบตัวมืดเพียงชั่วครู่ร่างทั้งสามก็ออกมายังนอกเมือง แสงแดดร้อนระอุกับไอความร้อนแผ่ซ่านลงมาเรื่อยๆทำเอาเหงื่อไหลออกมาเป็นทางน้ำเลยทีเดียว และไม่มีแม้แต่เงาของมอนสเตอร์ตัวน้อยที่คอยวิ่งเล่นที่นี่เป็นประจำ


“แล้วผู้พันล่ะ”


“อยู่แมพบนกับเจ้ามังกร ทำไมจะไปหาผู้พันหรอ”


“ไม่ล่ะ จะไปเกะกะผู้พันซะเปล่าๆ”



เสียงดาบ เสียงธนูหรือแม้แต่เสียงร่ายเวทย์ลอยมากระทบหูอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ไม่รอช้าคนทั้งสามก็เข้าปะทะศัตรูเช่นเดียวกัน ก่อนสายตาของรองกิลมารจะเหลือบไปเห็นคนคุ้นเคย


“หัวกิลๆ”


ฉัวะ!!! เคร้ง!!!


“หือ?”


ตุบ!!!


“ช่วยดูทีนั่นรองกิลอีโวรึเปล่า” ส่ายตาของคนถูกเรียกชื่อหรี่ลงเล็กน้อยสอดส่องหาบุคคลที่ถูกกล่าวถึง


ฉึบ!!!


“อ่าหะ.....แล้วไงสงสัยอะไร?” เขาเลือกไม่ตอบคำถามของหัวหน้าสมาคมแต่ตวัดสายตาไปจ้องหน้าด้วยความเหนื่อยหน่ายแทนก่อนจะหันหน้าไปมองคนที่กำลังเดินลิ่วๆอยู่ข้างหน้า


‘ปล่อยให้คนอื่นๆจัดการพวกนี้ไปแล้วกัน’


เขาไม่ได้คิดสงสัยอะไรแต่รู้ตัวอีกทีสองเท้าเดินตามอีกคนไปแล้ว ไม่ได้สงสัยเลยจริงๆ.....พยายามจะไม่ให้คนข้างหน้ารู้ตัว ก่อนจะอีกคนจะเข้าไปยังวาบล่างสุด ซึ่งจุดหมายปลายทางของวาบนั้นคือวินเดิ้ลวูด


เพียงพริบตา สองเท้าได้สัมผัสผืนหญ้า ต้นไม้เขียวชอุ่มเรียงรายเต็มสองข้างทาง รอบกายเงียบสงบบ่งบอกให้รู้ว่านี่คือวินเดิ้ลวูดไม่ผิดแน่ ก่อนจะกวาดสายตามองหาอีกคนที่กำลังเดินลิ่วๆไปยังวาบล่าง สองเท้าก็เดินตามอย่างไม่ลดละ


‘หมอนี่มาทำอะไรที่นี่’


เขาค่อยๆเดิมตามไปจนคนข้างหน้าหยุดที่หน้าวาบทางเข้าหมู่บ้านวินเดิ้ลวูดแต่ไม่ได้เข้าไป สายตาเขาสอดส่องเหมือนหาอะไรบางอย่างแต่เหมือนจะไม่เจอเพราะดูได้จากอีกฝ่ายขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะหันหลังเดินกลับมาทางนี้ หลบแทบไม่ทันเลยทีเดียว


รองหัวหน้าสมาคมอีโวเดินผ่านอีกคนที่กำลังซ่อนตัวอยู่ ไม่วายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆทำเอาคนที่แอบตามมาแทบสะดุดต้นหญ้า


“สะกดรอยได้ห่วยแตกจริงๆ”


“!!!!!”


“ออกมาได้แล้วมั้ง คุณรองกิลมาร”


“ชิ! รู้ตัวเมื่อไหร่วะ”
สองเท้าค่อยๆเดินออกมาจาที่ซ่อนอย่างหัวเสีย โดนจับได้เร็วไปไหมเนี่ย


“ก็ตั้งแต่นายเดินตามฉันที่เดธวอลเลย์”


“มันจะเซียนไปไหนวะ”
คนถูกจับได้บ่นอุบอิบกับตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็หัวเราะน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงบ่นอย่างชัดเจน


“ก็ไม่ได้เซียนอะไรมาก แค่นายมันสะกดรอยได้ห่วยแตกเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง”


“เออ! ใครมันจะไปเก่งเหมือนนายล่ะ”



อีกฝ่ายไม่ตอบเพียงแต่ยักไหล่ แล้วออกเดินต่อแล้วคนข้างหลังก็เดินตามอย่างช่วยไม่ได้แล้วมิวายเอ่ยปากถามคนข้างหน้า


“นายมาทำอะไรที่นี่”


“หึ! สงสัยว่าฉันจะเป็นกบฏรึไง?”
อีกฝ่ายที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าไม่ตอบคำถามมิหนำซ้ำยังถามเขากลับอีก แถมคำถามนั้นน่ะจี้ใจดำจริงๆ


“ก็มันน่าสงสัยไหมล่ะ ฟอทโดนศัตรูบุกแต่รองกิลกลับออกมาเดินในป่าแถมยังทำตัวลับๆล่อๆ จะให้ฉันคิดไงวะ” เขาคิดว่าตัวเขาก็ไม่ใช่ย่อยนะถึงจะไม่ได้ฉลาดเป็นกรดความคิดพุ่งปรี๊ดเหมือนรองกิลชิวๆก็เถอะ แต่แค่นี้เด็กสามขวบยังรู้เลยว่าน่าสงสัย


“เฮ้อ! แล้วแต่นายจะคิดแล้วกัน” อีกฝ่ายเลี่ยงที่จะตอบแล้วพ่นลมหายใจแรงๆก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เขาพูดไม่เก่งนี่จะให้อธิบายยังไง


“อ้าวเฮ้ย! จะรีบไปไหนวะ” รองกิลมารเอ่ยถามแล้วรีบจ้ำอ้าวตามหลังรองกิลอีกคนไป แต่ก็ไม่ได้คำตอบ


“.....”


“ลืมหูไว้ที่บ้านหรือไงครับท่าน”


“เงียบแล้วตามมาเฉยๆเหอะน่า”


“.....”
คนเดินตามเงียบอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้เขามีเรื่องอยากจะถามอีกเยอะก็ตาม


แต่ก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อคนที่เดินนำหน้าจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ


“ฉันน่ะ...เคยสาบาน...”


“?”


“...สาบานไว้ว่าจะปกป้องเมืองอสุรา...ถึงจะตายก็ต้องปกป้องไว้ให้ได้”



สิ้นเสียงผู้ต้องสงสัย คนที่อยู่ข้างหลังเบิกตากว้างก่อนจะระบายยิ้มน้อยๆ เขารู้คนข้างหน้าอยากจะคลายความสงสัยของเขา แต่ดูเหมือนว่าพูดไม่เก่งสักเท่าไหร่เพราะเจอกันทีไรชอบทำหน้านิ่งๆ พูดเสียงเรียบๆแล้วกว่าจะพูดออกมาได้แต่ละคำนี่ยากเสียเหลือเกิน ฝ่ายนั้นเลยพูดออกมาได้แค่นี้


แต่มันก็เกินพอ เขาไม่ได้ติดใจสงสัยในตัวรองหัวหน้าสมาคมชิวๆคนนี้แล้ว


“ขอโทษที่สงสัยนาย”


“.....”
อีกฝ่ายหันหน้ามาเป็นเชิงรับรู้ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากอีกตามเคย


โถ! พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง จะกรุณาเอ่ยปากหน่อยไม่ได้รึไง ดอกพิกุลคงอัดแน่นในปากละตอนนี้ มันเคยร่วงออกจากปากสักดอกไหม? อยากรู้จริงๆ





To be continued…




 
●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●




Time : 17.07 [30/05/55]


บางทีคนเรามันก็แปลก คุณว่าไหม?

อืม...จะว่าไงดีล่ะ ยกตัวอย่างเช่นคนเขียนเป็นต้น เอ๊ะ! คุณรู้รึเปล่าถ้าเราลุกขึ้นมันจะยืนนะ





No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!
แก้คำผิดจ้าาา อัพตอนเมา TOT ผิดเยอะมาก ขอโทษคร๊าบ


“ก็มันน่าสงสัยไหมล่ะ ฟอทโดนศัตรูบุกแต่รองกิลกลับออกมาเดินในป่าแถมยังทำตัวลับๆล่อๆ จะให้ฉันคิดไงวะ” เขาคิดว่าตัวเขาก็ไม่ใช่ย่อยนะถึงจะไม่ได้ฉลาดเป็นกรดความคิดพุ่งปรี๊ดเหมือนรองกิลอีโว ก็เถอะ แต่แค่นี้เด็กสามขวบยังรู้เลยว่าน่าสงสัย





แต่มันก็เกินพอ เขาไม่ได้ติดใจสงสัยในตัวรองหัวหน้าสมาคมอีโวคนนี้แล้ว


No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



garnman

  • Jr. Member
  • **
    • กระทู้: 177
จากนั้นราชามังกรเกเลียนก็ผายลมออกมา woon_shockเป็นพายุพัดกระหน่ำเข้าพัดทุกสิ่งทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากองประกอบกับทำให้พืชบริเวณนั้นเหี่ยวเฉาผู้คนต่างสลบและล้มตายเป็นจำนวนมากทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักหักพัง
...
..
.
.
.
และแล้วเมืองอสุราก็ถึงกาลอวสาน woon_sunny woon_sunny woon_sunny woon_sunny


Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!
อะ...เอ่อมันยังไม่จบ  g#002
แต่ตอนนี้คนแต่งกำลังติดเรียนจ้า รอก่อนๆนะเอิ๊กๆ
No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



EIAM.

  • ttttt.
  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 843
อีกนานปะจะแต่งต่อ รออ่านนะเนี่ย555555555555
u r my precious thing. kt



Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!
อีกนานปะจะแต่งต่อ รออ่านนะเนี่ย555555555555

ไม่นานๆ   เอ่อ...จริงๆก็นาน
No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!

NEVER ENDING
ASURA CITY




Chapter 13 : อย่างมากก็แค่ตาย [5%]





เมื่อราวสิบนาทีก่อน

[ ณ เรดคลิฟ]



“เรียบร้อยไหมแบงค์?”

   
“ครับพี่แก๊งค์ผมพาคนแก่กับเด็กๆขึ้นเรือไปวิหารเมทัลหมดแล้ว ลุยเลยไหมพี่ทางสะดวกแล้ว”


“จัดการพวกมันอย่าให้เหลือ!!!”


“โอเคจัดไปครับพี่”




โครม!!! ตึง!!!

เสียงโครมครามดังสนั่น สองเท้าแนบพื้นรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับแผ่นดินจะแยกออก แต่คงจะไม่ได้รับความสนใจเท่ากับมอนสเตอร์ร่างสูงใหญ่ ผิวกายสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ ดวงตาคู่นั้นเพียงแต่พุ่งมองลงมา สายตาทุกคู่ เท้าทั้งสองข้างหยุดนิ่งราวกับถูกสะกด


“พี่แก๊งค์”


“หือ?”


“บอกผมทีสิ ตรงหน้าเรานี่ไม่ใช่ ไกเซอร์ ออกญาเขี้ยวทมิฬใช่ไหม?”


“ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าใช่”


“มันไม่ได้เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ในตำนานใช่ไหมพี่?”


“ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็น”



“Oh! God Why?”





[5%]


เมื่อยามท้อแท้


ชายกลุ่มหนึ่ง...เป็นนัก ดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบ  ริษัทเดคคาเรคคอร์ติ้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า  "เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา  และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลังจะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนาม ว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน


ทุกคนเคยผิดหวัง ทุกคนเคยแพ้ เคยล้มเหลว
แต่คนแพ้ไม่ใช่คนล้มเหลว
คนล้มเหลวคือคนที่ยอมแพ้ต่างหาก


Thank : youphuket


Ps. รู้ว่ามาอัพน้อย ขอโทษจากใจ ฮ่าๆ
No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



-rosequartz-

  • หยุดที่เทอ....
  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,321
หิวข้าว woon_angry
∣/    ~อากาศกลางคืน~     ∩
— ● —  ~เริ่มเย็นจนหนาวแล้ว~   ╭~~╮◢█◣
﹋ /∣\╭~~╮~อย่าอาบน้ำดึกมากละ~ ╰~~╯▕田▎
╰~~╯﹋╭~╮~เดี๋ยวจะไม่ชาบาย~ ◢█◣
﹋         ﹋ ╰~╯ ห่มผ้าด้วยน๊า*-*      ▕田▎  ﹋
﹋ ˍ    ╱╲    ╱﹋╲   ﹋  ﹋ ◢█◣ ╭~╮
╱㎜╲╱╲╱+* ╲ ╱…∴‥╲╱╲㎜  ▕田▎ ╰~╯
╱:+*∴╲*+╲+╱╲╱∴+*╱╲ *╲ ╲ ㎜ ◢█◣
▂▄▅▅▆▅▄▂▂▂▊▂▄▅▅▆▅▄▂▂▂▂▂▄█田█▄▂


Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!

NEVER ENDING
ASURA CITY




Chapter 13 : อย่างมากก็แค่ตาย [50%]





เมื่อราวสิบนาทีก่อน

[ ณ เรดคลิฟ]



“เรียบร้อยไหมแบงค์?”

   
“ครับพี่แก๊งค์ผมพาคนแก่กับเด็กๆขึ้นเรือไปวิหารเมทัลหมดแล้ว ลุยเลยไหมพี่ทางสะดวกแล้ว”


“จัดการพวกมันอย่าให้เหลือ!!!”


“โอเคจัดไปครับพี่”




โครม!!! ตึง!!!

เสียงโครมครามดังสนั่น สองเท้าแนบพื้นรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับแผ่นดินจะแยกออก แต่คงจะไม่ได้รับความสนใจเท่ากับมอนสเตอร์ร่างสูงใหญ่ ผิวกายสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ ดวงตาคู่นั้นเพียงแต่พุ่งมองลงมา สายตาทุกคู่ เท้าทั้งสองข้างหยุดนิ่งราวกับถูกสะกด


“พี่แก๊งค์”


“หือ?”


“บอกผมทีสิ ตรงหน้าเรานี่ไม่ใช่ ไกเซอร์ ออกญาเขี้ยวทมิฬใช่ไหม?”


“ก็เห็นอยู่ชัดๆว่าใช่”


“มันไม่ได้เป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ในตำนานใช่ไหมพี่?”


“ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็น”



“Oh! God Why?”





อีกด้านหนึ่ง


“นายพามาที่นี่ทำไม” รองหัวหน้ากิลมารเอ่ยถามคนข้างหน้า ทันทีที่สองเท้าข้างหน้าพาเขาหยุดเดิน บรรยากาศร้อนระอุ ผืนดินสีน้ำตาลส้ม บอกให้รู้ว่าที่นี่เป็นเดธวอลเลย์ไม่ผิดแน่


“.....” ฝ่ายถูกถามไม่ปริปากบอกอะไร แต่ก้มเก็บหมุดเหล็กที่หล่นอยุ่ตรงพื้นขึ้นมาดูพลิกไปพลิกมาก


“ให้ตายเหอะ นายมาฉันเดินอ้อมเมืองเดธ แว๊บผ่านฟอท วกกลับมาที่แมพมังกรที่เดธ เพื่อมาดูเศษหมุดเหล็กเนี่ยนะ” เขาบ่นกระปอดกระแปดไม่หยุด ก็แน่ล่ะไอ้คนเดินนำหน้าพาเขาออกจากวินเดิ้ลวู้ด มาโผล่เดธ เข้าไปในป้อมเดธนั่งรถมาฟอทเดินไปสำรวจนี่นั่นในเมือง แล้วก็อ้อมไปโผล่แมพกัลก้า เดินต่อมาแมพมังกรเพื่อที่จะพาเขามาดูเศษหมุดเหล็ก คราวที่แล้วก็ทีนึง เขาล่ะสงสัยจริงๆว่าคนข้างหน้าเขานี่อยากจะแต่งงานกับหมุดเหล็กหรือยังไง!!! เห็นพลิกไปพลิกมาดูมันจัง


นี่ละนะ เขาว่ากันว่าคนฉลาดมักเข้าใจยาก!


“เลิกบ่นได้แล้วน่า”


“เหอะ!”



เท้าสองคู่เดินสำรวจแมพไปเรื่อยๆ สายตาสอดส่องหาร่องรอยการต่อสู้ไม่หยุดหย่อน บรรยากาศร้อนระอุของเดธวอลเลย์ยังส่องลงมากระทบกายไม่ขาดสาย


“มีอะไรอยากถามรึเปล่าคุณรองกิลมาร” อยู่ๆคนข้างหน้าก็เอ่ยปากถามขึ้นเอาเสียดื้อๆ ทำเอาคนเดินตามหลังสะดุ้งโหยง


“ทำไม! ถ้าฉันถามนายจะตอบให้รึไง?”


“ถามมาสิ”


“ติดไว้ก่อนละกัน ไว้จะถามวันหลัง”
เขามีคำถามอยากจะถามกองเป็นภูเขาแต่เอาเข้าจริงกลับไม่พูดออกมา ทำเอาอีกคนหันมามองพร้อมกับเลิกคิ้ว เขาไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรรองกิลอีโวแล้วจึงไม่จำเป็นต้องรู้เดี๋ยวนั้น แต่ที่ติดใจก็คือ

จะพามาตากแดดที่นี่ทำไม? ร้อนนะโว๊ย!!!


ถึงในใจจะบ่นว่าร้อนแต่สองเท้าก็เดินไม่หยุดหย่อน เหงื่อกาฬไหลลงมาอาบเสื้อเป็นทาง นี่ก็ผ่านไปเกือบ 10 นาทีแล้ว ทั้งสองก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


“ไปกันเหอะ” จู่ๆฝ่ายที่ปิดปากเงียบมานานก็เอ่ยเสียงเรียบ


“หะ? ตรวจสอบเสร็จแล้วหรอ แล้วจะไปไหน?”


“เรดคลิฟ วาบไปเลยแล้วกัน”
ยังไม่ทันจะได้ถามคนพูดก็กดใบคาถาไปยังจุดหมาย ทำเอาคนข้างหลังต้องรีบวาบตามอย่างช่วยไม่ได้


เพียงพริบตาสองร่างก็วาบมาถึงยังจุดหมาย กลิ่นอายของชายทะเลลอยมาแตะจมูกบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าพวกเขามาถึงเป้าหมายแล้ว แต่เมืองที่เงียบสงบอย่างเรดคลิฟกลับมีเสียงโครมคราม อีกทั้งเสียงคำรามที่หน้าเมืองดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกความสนใจจากสองผู้มาใหม่ได้เป็นอย่างดี


“ไปดูกันเหอะ”


วาบสีฟ้าสว่างพาสองร่างมาถึงหน้าเมืองเรด และก็เป็นไปตามคาด ร่องรอยการต่อสู้อย่างหนักปรากฏชัดเจน ที่สำคัญเสียงของการต่อสู้ดูเหมือนจะยังไม่จบลงเสียด้วย


“เสียงมาจากทางนั้น”



โฮกกกกกกกกกกก!!!  กรรรรรรรรรรรรร!!!

มอนสเตอร์ร่างสูงใหญ่ปรากฏต่อหน้ากำลังปะทะกับคนสองคนที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี หัวหน้าสมาคมชิวๆ เลือดสีแดงข้นไหลลงมาตามเสื้อผ้า บ่งบอกว่าทั้งสองฝ่ายต่อสู้มาอย่างดุเดือดแค่ไหน


“โอ้โหไอ้คุณแก๊งค์โซโล่เดี่ยวกับมอนสเตอร์ในตำนานเลยหรอ...อ้าวเฮ้ย! รอด้วยดิวะ”


ฉัวะ!!!
กรงเล็บแหลมสะบัดมาหมายจะให้เฉือนคนตรงหน้า อีกฝ่ายก็ตั้งรับอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน แต่ร่างกายที่เริ่มอ่อนล้าเพราะผ่านการต่อสู้มานานจะรับได้ไม่ดีนัก กรงเล็กแหลมตวัดเข้าที่แขนแม้จะไม่ลึกมานักแต่สร้างความเจ็บปวดได้ไม่น้อย


ดวงตาเริ่มจะพร่าลงเรื่อยๆ แต่พอจะมองเห็นกรงเล็บแหลมที่มอสเตอร์ตรงหน้าสะบัดใกล้เขา สองมือเตรียมอาวุธตั้งรับ มีดสั้นกลับหล่นลงจากมือที่อ่อนแรง

ฉัวะ!!! เคร้ง!!!
เสียงกรงเล็บปะทะกับมีดสั้น ทำให้คนที่กำลังจะหยิบมีดสั้นที่หล่นลงจากมือเงยหน้าขึ้นมามอง ก็พบคนทั้งสองที่เขาเองก็คุ้นเคยเป็นอย่างดีกำลังปกป้องเขาอยู่


“ตายรึยังน่ะนาย” รองกิลอีโวเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ


“อะไรกันไอ้คุณแก๊งค์มาโซโล่เดียวกับไกเซอร์เลยหรอ” น้ำเสียงกวนๆของอีกคนเอ่ยขึ้นตาม


“พวกนาย...แฮกๆ มาได้ยังไง”


“บังเอิญเดินผ่านมา”


“ขอบใจที่ช่วย”
ถึงแม้ปากจะไม่ค่อยดี แต่ก็มาช่วยเขาไว้ละนะ


“อย่าบอกนะว่าไอ้เสียงดังโครมครามคือเจ้านี่น่ะ”


“....”
คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ


"เป็นไปได้ยังไงมอนสเตอร์ในตำนานมาบุกเมืองสองตนพร้อมกันขนาดนี้" รองกิลอีโวเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ


"ตอนนี้ไม่สำคัญหรอกว่าทำไมมันถึงมา สนใจดีกว่าว่าเราจะจัดการมันยังไงดีเพราะถ้าเราพลาดอาจจะหมายถึงความปลอดภัยของคนในเมืองด้วย" คำพูดที่ดูไม่สมกับเป็นรองกิลมาร ทำเอาอีกสองคนที่เหลือหันไปมองพร้อมเอ่ยปากแซวด้วยทีเล่นทีจริง


"ไม่น่าเชื่อ"


"เป็นไข้รึเปล่าวะ?"





[50%]



Ps. ได้อัพเพิ่มวันละนิดละหน่อย ขอโทษจากใจจ้า ติดเรียนบักคัก!!!
No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!
ยังมีใครจำเรื่องนี้ได้อยู่มั๊ยน้อ ว่าจะแต่งต่อ แหะๆ >/////<
No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go



rockkey19

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 580
ยังมีใครจำเรื่องนี้ได้อยู่มั๊ยน้อ ว่าจะแต่งต่อ แหะๆ >/////<

ผมขอให้คุณปรับขนาดอักษรลงเล็กน้อยเถอะครับ ปวดนิ้วมากต้องเลื่อนฉึกๆ บทแจ่มมากครับ สู้ๆ g#031 g#031


Why?

  • Full Member
  • ***
    • กระทู้: 1,409
  • อั๊ยย๊ะ!
ยังมีใครจำเรื่องนี้ได้อยู่มั๊ยน้อ ว่าจะแต่งต่อ แหะๆ >/////<

ผมขอให้คุณปรับขนาดอักษรลงเล็กน้อยเถอะครับ ปวดนิ้วมากต้องเลื่อนฉึกๆ บทแจ่มมากครับ สู้ๆ g#031 g#031


ต้องขออภัยจริงๆเน้อ แหะๆ คิดว่าตัวเล็กๆจะอ่านลำบากที่ไหนได้ ตัวโตดันอ่านลำบากกว่า >//////<
เดี๋ยวตอนต่อไปจะปรับลดให้จ้า
  g#019
No matter what happens
Even when discusse on me now down
I promise you
That I'll never let you go