GAMEINDY กระดานสนทนา
www.gameindy.com

เหงา [เรปเดียวจบ]

กร็วก

  • มนุษย์ดาวอังคาร
  • Jr. Member
  • **
    • กระทู้: 198
  • กร็วก!!!!.....มันเป็นใครวะ????!!!!....
     ในเวลาเที่ยงคืน ในคืนที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก มีเสียงฟ้าร้องดังครืนมาเป็นช่วงช่วง แม้มันจะตกลงมาได้ 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงได้ อาจเพราะมันเป็นช่วงมรสุมเข้าจากตะวันออก หรือฟ้าฝนดลตรงกับใจของชายคนหนึ่งที่นั่งเล่นเกมส์อยู่หน้าคอมพ์ก็ได้

     ในเที่ยงคืนนี้ที่เขาไม่มีใครอยู่ข้างกาย ไม่มีใครให้พูดจา มีเพียงมือที่รัวแป้นพิมพ์ กับหน้าจอที่แสดงสิ่งที่เขาต้องการออกมา เขาคิดว่านี้คงจะเพียงพอสำหรับชีวิตเขาแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไร ที่จะต้องออกไปข้างนอก ออกไปโดนUVเผา ออกไปเจอมลภาวะที่เป็นพิษ ออกไปเจอสังคมใหญ่ เจอผู้คนมากหน้าหลายตา แค่คนที่เข้ามาเจอในสถานที่รวมตัวบนโลกออนไลน์ ก็คงจะพอแล้ว เขาคิดเช่นนั้น

     แม้วันนี้ ฝนที่ตกลงมาจะมีลักษณะเป็นของเหลวกรรโชกแรงอย่างทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้ เหมือนจะแตกต่างออกไป ทั้งแรงกระแทก แรงลมที่พัดมานั้น รุนแรงเกินกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อเขารู้สึกได้ จึงถอดหูฟังออกวางไว้ แล้วลากร่างกายของเขาไปที่หน้าต่าง พลางชะโงกออกไปให้เม็ดฝนกระแืทกหน้า ก่อนจะปิดบานหน้าต่างเบาเบา แล้วรูดม่านมาปิดไว้อีกชั้น
 
     เปรี๊ยง!!!!
 
     เสียงฟ้าร้องดังลั่น ทะลุผ่านบานหน้าต่างเข้ามากระแทกหูของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ทำเอาร่างของชายคนนี้สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ความนึกคิดของเขาเมื่อครู่ที่กะจะกลับไปนั่งเล่นคอมพ์ต่อนั้นขาดผึ่งลงชั่ววูบ เขาลืมไปช่วงเสี้ยวหนึ่งว่าจะทำอะไรต่อ แต่โดยไม่ทันรู้ตัวเขาก็เดินไปที่โต๊ะคอมพ์ทันที ราวกับเมื่อครู่เขายังมีสติอยู่ เสียเวลาเปล่าที่จะมานั่งสงสัยว่าเมื่อครู่ตนเป็นอะไร
เวลาผ่านไปไม่นาน เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง
 
     เปรี๊ยง!!!!
 
     คราวนี้มันเลวร้ายกว่าครั้งที่แล้ว หน้าจอคอมพ์ของเขาดับลง พร้อมกับไฟทั่วบ้าน ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศหยุดชะงักไป กลายเป็นความร้อนอบอ้าววื่งขึ้นหน้าในทันที เขาถึงกับนิ่งเมื่อไฟทั่วทั้งบ้านดับลง ก่อนจะรวบรวมสติหยิบโทรศัพท์มือถือมากดปุ่มให้มีแสงพอคลำทางไปได้ เขาพอจะจำได้ลางลาง ว่าเก็บไฟฉายไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องของเขา เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าออกก็หยิบไฟฉายมาเปิด น่าเสียดายที่แสงมันริบหรี่เกินไป อาจเพราะมันถูกเก็บไว้นานจนถ่านเสื่อมไปแล้ว เขาจำยอมใช้มันไปก่อน แต่เมื่อคิดได้ว่า ไฟคงจะดับอีกนาน จึงเดินตรงไปที่ห้องครัว หาเทียนและไฟแช๊กออกมาจุด ตั้งไว้กับโต๊ะกินข้าว ด้วยความร้อมอบอ้าวจนโชกเหงื่อ เขาเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำที่ยังเย็นค้างอยู่ออกมายกดื่ม โดยไม่เสียเวลาที่จะเทใส่แก้ว (ซกมกจริงจริง = =)

     เมื่อคิดว่าคงจะไม่ได้ทำอะไรต่อแล้วจนกว่าไฟจะมา ก็หยิบขวดน้ำขึ้นมาติดมือ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ หน้าตัวมีโต๊ะที่มีเทียนไขกับกระบอกไฟฉายตั้งอยู่ข้างข้าง เวลาผ่านไปเนิ่นนาน สายตาเริ่มชินชากับความมืด เมื่อมองออกไปตรงมุมไหนไหนในบ้าน ก็จะมีแต่เพียงความมืดที่ปกคลุมอยู่ ทำเอาเริ่มคิดฟุ้งซ่านว่าตรงนั้นจะมีอะไรอยู่รึเปล่า เขาเริ่มกลัวขึ้นมานิดนิด แต่โตป่านนี้แล้วเรื่องน่ากลัวก็คงปกคลุมได้ไม่ทั่วสมอง ยังพอมีทฤษฐีเล็กเล็กในใจมาหักล้างกับมันได้ เมื่อสบายใจได้นิดหน่อยก็ยกน้ำขึ้นดื่มอีกครั้ง

     เขานั่งคิดถึงผู้เล่นคนหนึ่งที่กำลังคุยกันอยู่อย่างออกรสเมื่อครู่ จนถึงก่อนไฟดับลง อีกฝ่ายคงจะคิดว่าเขาออกจากเกมไปแล้วก็เป็นได้ น่าเสียดายเกินไป เขาพร่ำบอกตัวเองในสมองว่าอยากให้ไฟติดเร็วเร็ว แม้จะควบคุมมันไม่ได้ แต่ก็ยังคงมีความคิดนี้อยู่ในหัว เวลานี้เขารู้สึกถึงสิ่งรอบกายที่เงียบลง แม้เสียงฝนเสียงฟ้าร้องจะดังแค่ไหน แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการ เขาปฏิเสธต่อมัน ไม่รับรู้เอาไว้ เขาอยู่คนเดียวในบ้านหลังหนึ่งที่มืดสนิท เวลาอย่างนี้ถ้าไฟยังติดอยู่เขาคงง่วนเล่นเกมกับเพื่อนในโลกออนไลน์ พิมพ์สัมผัสคุยกัน แอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หลังจอที่ไม่มีใครเห็น แต่เมื่อไฟดับแบบนี้ บรรยากาศเงียบเหงาที่ไม่มีใครทำเอาเขาครุ่นคิดแต่เรื่องไร้สาระมากมายที่เมื่อเขานั่งเล่นเกมอยู่นั้น ไม่มีทางที่จะคิดขึ้นมาได้ เขาเหลือบไปมองอ่างล้างจานกองพะเนินที่ยังไม่ได้ล้าง เหลือบไปเห็นถุงมาม่าที่แกะแล้ววางกองบนพื้น มันควรจะไปอยู่ในถังขยะไม่ใช่หรอ เขาอยากจะบอกเรื่องนี้ให้คนอื่นได้รับรู้ ถ้าไฟยังติดอยู่ก็คงพิมพ์บอกเพื่อนในเกมไปแล้ว

     เขาจับโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์ที่เขาท่องจำได้ขึ้นใจ จนครบ 10 ตัว แต่แล้ว เขาก็ไม่ได้โทรไป เขาเกรงใจที่จะกวนคนอื่นในเวลาแบบนี้ เขาตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ โดยที่ยังไม่ได้กดลบตัวเลขทิ้งไป ได้แต่นั่งจ้องโทรศัพท์แล้วคิดถึงบทสนทนาที่จะคุย นึกถึงคำตอบจากอีกฝ่ายออกมาราวกับผุดรู้ เขาสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ แม้นัยนัยจะรู้ว่ามันไม่เป็นความจริงก็ตาม แต่เขาก็รู้สึกดีที่จะอยู่แบบนี้

     จนเมื่อไฟติดขึ้นมา เขารีบเป่าเทียนให้ดับลง แล้วกุรีกุจอไปเปิดคอมพ์ทันที

__________________________________________________________________

     ลึกลึกแล้วทุกคนล้วนมีความเหงาในใจ แต่เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็จะลืมความเหงาไป
และเมื่อถึงเวลาที่ขาดสิ่งนั้นไป ก็จะรู้ซึ้งถึงคุณค่าของมันขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าเมื่อมีมันจนลืมความเหงาแล้วเราจะไม่เห็นคุณค่าของมัน ไม่ใช่แบบนั้นเลย
แต่เพราะว่าเมื่อไม่ีมีมันแล้วต่างหาก เราจึงรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน

ปล. ผมเป็นน้องใหม่พึ่งเล่นเกมโปรเจควันได้ไม่นาน ขอความกรุณาด้วยนะครับ g#017
ปลล. อ้ากกกก อาย woon_love


dyl

  • ผมน่ะ ก.
  • Hero Member
  • *****
    • กระทู้: 5,544
  • ลูกพ่อเต
อ่านแล้วนึกถึงตัวเอง
เป๊ะเวอร์!
 g#019 g#019
เป็นคนคนหนึ่ง